วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

พระพรจากการไปแบ่งปันพระพร

มาเล่าต่ออีกเรื่องครับ วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญไปเทศนาที่คริสตจักรมหาชล สรรเสริญพระเจ้าได้พบเพื่อนร่วมรับใช้ท่านต่างๆ นานมากแล้วครับ ร่วมยี่สิบปี พี่น้องในคริสตจักรความหวังฯคงไม่รู้จักแล้วครับ นานมากแล้ว ที่ไม่ได้พบกัน บางท่านก็บอกว่ารู้จักผม และผมไม่รู้จักเขา เพราะสมัยอยู่ที่ความหวังนั้นเป็นสมาชิกเท่านั้น แต่ตอนนี้เป็นผู้รับใช้พระเจ้าในคริสตจักรครับ ก็พบปะกันด้วยความชื่นชมยินดีครับ คนเก่าๆที่เคยร่วมรับใช้กันมาสมัยก่อนก็ได้แยกย้ายกันไปปฏิบัติภาระกิจตามน้ำพระทัยพระเจ้า

ผมไปเยี่ยมที่คริสตจักรก็ทราบและเห็นการสำแดงของพระเจ้าสำหรับพี่น้องที่คริสตจักรมหาชล ก็เชื่อแน่ว่านำความชื่นชมยินดีและทำให้รู้ชัดเจนว่าพระเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกเขาจริงๆ

ต่อมาผมเดินออกไปภายนอกอาคาร ไปเจอคอกแกะเข้า ชอบใจแกะตัวเป็นๆจริงๆครับ ผมว่าเป็นสัตว์ที่ไม่เหมือนสัตว์ประเภทอื่นๆ ดูมีความสุภาพมาก และไม่มีพิษมีภัย  เขายังชอบอยู่ด้วยกันกับแกะตัวอื่นๆ  เห็นเขาเอาหัวไซ้เข้าไป อยู่ร่วมกันเป็นกระจุกๆ ไม่แยกออกมายืนตัวเดียว  อือม! นี่ละมั๊งที่พระเจ้าให้ภาพการอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนของคริสเตียน เป็นเหมือนภาพของฝูงแกะที่อยู่รวมกันเป็นฝูงๆ
คอยเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นี่ละมั๊งKoinonia สามัคคีธรรม  กำลังอินครับ กำลังสอนเรื่องกลุ่มสามัคคีธรรมตามบ้านอยู่...

อือม!  เราต้องอยู่ร่วมกันรวมกันเป็นฝูงๆภายใต้ผู้เลี้ยงประเสริฐคือพระเยซูคริสต์ ยิ่งใกล้วันพระเยซูมาเท่าไร เราคงถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นเหมือนพระเยซูมากขึ้นเท่านั้น  ผมกับอ.ราชกิจบอกอ.ยุทธศักดิ์(ผู้ใหญ่ในแวดวงคริสเตียน) เมื่อสองสัปดาห์ก่อนว่าขอเวลาฟื้นฟูคริสตจักรอีก 1 ปีครับ ปี 2012 เป็นต้นไป จะมาร่วมลงแรงอย่างเต็มที่สำหรับงานพระเจ้าในประเทศไทยครับ ตอนนี้ก็ขอให้อ.ราชกิจเป็นตัวแทนของคริสตจักรไปร่วมประชุม ร่วมปฏิสัมพันธ์ต่างๆไปก่อน ผมขอลงแรงอย่างเต็มที่ในคริสตจักรความหวังกรุงเทพฯ ฯลฯ อีก 1 ปีครับ

ฝากพี่น้องดูแลฟื้นฟูงานในกทม. และจังหวัดใกล้เคียงเต็มที่ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

ความเข้าใจเรื่องการฟื้นฟู

วันนี้บันทึกอีกเรื่องครับ ก่อนจะลืม คือว่าสัปดาห์นี้มีประชุมผู้นำครน.กันที่คริสตจักร ระหว่างที่นมัสการและอธิษฐานนั้น พระเจ้าก็ได้ทำให้ผมเข้าใจ(ในความคิดผม)เรื่องการฟื้นฟูในประเทศไทย คือผมมีคำถามว่า พระเจ้าสัญญาว่าจะมีการฟื้นฟูในไทย แต่สิ่งที่ผมเห็นในคริสตจักรทั้งหลายทั่วประเทศไทย นับแต่ผมเชื่อพระเจ้ามาใหม่ๆ(เชื่อที่คจ.อื่น) ผมเห็นสิ่งต่างๆซึ่งผมคิดว่าจะไม่นำมาซึ่งการฟื้นฟูประเทศไทยแน่เลย ดังนั้นเองผมสงสัยคำเผยพระวจนะนี้มาก และไม่ใช่เพียงคำเผยพระวจนะเท่านั้น พระเจ้ายังได้ตรัสกับผมส่วนตัวเมื่อผมเชื่อใหม่ๆว่า พระเจ้าจะทำการฟื้นฟูประเทศไทย  แล้วเหตุการณ์นี้จะเป็นเช่นไร

พระเจ้าให้ผมเข้าใจอย่างนี้ว่า มีสองส่วนทั้งการฟื้นฟูประเทศไทยจริงๆ และการฟื้นฟูในคริสตจักรต่างๆ  ทั้งสองส่วนนี้เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังต้องการเห็นพระองค์เสด็จมาเยี่ยมประเทศไทยจริงๆ เปลี่ยนแปลงประเทศไทยจากสภาพความผิดบาป ให้คนหันกลับมาแสวงหาพระเจ้าผู้เที่ยงแท้ ไม่หลงงมงายอยู่กับสิ่งที่ไม่จริงแท้ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยพระคุณพระเจ้า ไม่ใช่ด้วยการกระทำดีของเรา ไม่ใช่เพราะว่าคริสตจักรในประเทศไทยดีแล้ว พร้อมแล้ว เหมือนเมื่อเรามาเชื่อพระเจ้า ไม่ใช่เพราะความดีของเรา แต่เป็นด้วยพระคุณพระเจ้า เป็นพระหัตถ์ของพระเจ้าจริงๆที่เคลื่อนลงมาในประเทศไทย  สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องจับตามองกันต่อไปด้วยใจหิวกระหายแสวงหาพระเจ้า

อีกส่วนหนึ่งคือในคริสตจักรต่างๆ พระเจ้าให้ความเข้าใจกับผมว่า คริสตจักรต่างๆจะต้องแสวงหาพระเจ้าเพื่อจะรู้น้ำพระทัยพระเจ้าสำหรับคริสตจักรนั้น และตอบสนองทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ เหมือนที่พระเยซูได้กล่าวไว้ใน      John 6:38 เพราะ​ว่า​เรา​ได้​ลง​มา​จาก​สวรรค์ มิใช่​เพื่อ​กระทำ​ตาม​ความ​ประสงค์​ของ​เรา​เอง แต่​เพื่อ​กระทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา

พระเยซูได้เข้ามาในโลกไม่ใช่เพื่อทำตามใจตนเอง แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของพระบิดาผู้ทรงใช้พระองค์มา

เราก็เช่นกัน  เราก็ต้องทำตามพระประสงค์ของพระเยซูผู้ทรงใช้เรามา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คริสตจักรแต่ละคริสตจักรจะต้องทราบน้ำพระทัยพระเจ้าสำหรับคริสตจักรนั้น และทำตามน้ำพระทัยนั้น  พระเยซูได้บอกว่า     John 6:63 จิต​วิญญาณ​เป็น​ที่​ให้​มี​ชีวิต ส่วน​เนื้อ​หนัง​ไม่​มี​ประโยชน์​อัน​ใด ถ้อยคำ​ซึ่ง​เรา​ได้​กล่าว​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​นั้น เป็น​จิต​วิญญาณ​และ​เป็น​ชีวิต​

ถ้อยคำที่พระเยซูได้กล่าวนั้น เป็นถ้อยคำRhema ถ้อยคำที่รับการดลใจ ไม่ใช่ถ้อยคำLogosที่เขียนไว้แล้ว  Rhemaนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องแสวงหาพระเจ้า จะเป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิตแก่เราได้

ดังนั้นถ้าคริสตจักรปรารถนาจะเห็นการฟื้นฟูเกิดขึ้นในคริสตจักร คริสตจักรนั้นๆก็ต้องแสวงหาพระเจ้า และทราบRhema น้ำพระทัยสำหรับคริสตจักรนั้นๆว่า พระองค์ประสงค์สิ่งใดในคริสตจักรนั้น คริสตจักรนั้นๆก็ควรตอบสนอง และทำตาม  นี่แหละที่ข้าพเจ้าได้ความเข้าใจเรื่องการฟื้นฟูในคริสตจักร คือเรื่องการทำตามน้ำพระทัยพระเยซูในคริสตจักรนั้น

สำหรับคริสตจักรของเราอย่างที่ผมได้เคยบอกไปแล้วครับ และกำลังแจ้งให้ทราบอยู่ในทุกวันอาิทิตย์  ขอพระเจ้าอวยพระพร เสริมกำลังทุกท่านครับ



วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

การฟื้นฟู

ช่วงที่ไม่สบาย เป็นช่วงที่ได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ เป็นช่วงที่ได้แสวงหาพระเจ้าดีจริงๆ  วันนี้จึงขอบันทึกความตั้งใจไว้อีกเรื่อง ที่ปรารถนาจะเห็นคนไทยได้รับความรอด เป็นความปรารถนานับจากวันที่เชื่อพระเจ้าใหม่ๆแล้วว่าอยากเห็นพระเจ้ามาทำการฟื้นฟูประเทศไทย ให้คนไทยนับแสนได้หันกลับจากทางเก่าทางผิดบาปกลับมาดำเนินอยู่ในทางพระเจ้า  ข้าพเจ้าเฝ้ารอ ข้าพเจ้าเฝ้าอธิษฐานเผื่อเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆ อธิษฐานครั้งใดมักจะจบลงที่น้ำตาท่วมจอ ด้วยภาระใจอย่างแรงกล้า เมื่อข้าพเจ้ามองดูในพระคัมภีร์ พระเจ้าจะทำสิ่งใดก็มักจะเป็นไปตามคำทูลของคนของพระเจ้าในโลกนี้  ข้าพเจ้าฝันที่จะเห็นกิจการที่พระองค์จะลงมากระทำด้วยพระองค์เองในประเทศไทย  ข้าพเจ้าเห็นแล้วในคริสตจักรของเราเล็กๆน้อยๆ แต่ข้าพเจ้าบอกว่าไม่พอพระเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงมีพระเมตตากรุณาและขอทรงกระทำอีกพระเจ้าข้า  ขอทำแบบที่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อข้าพเจ้าจะสามารถนำ้ไปเล่าให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานได้ฟังถึงพระเมตตาคุณอันอุดมของพระองค์ ยิ่งใกล้วันเสด็จกลับมาของพระองค์มากขึ้นเท่าใด  ข้าพเจ้าก็จะยิ่งเห็นสิ่งที่พระองค์กระทำในโลกนี้มากขึ้นเท่านั้น

ขอพระเจ้าดลใจคนไทย เร้าใจคนไทย ให้เขามีความหิวกระหาย ต้องการพระองค์ อยากเขื่อพระองค์ แล้วก็เดินเข้ามาในคริสตจักรเอง และขอเชื่อ  ขอพระองค์กระทำอีกพระเจ้าข้า

ขอพระเจ้าประทานให้มีผู้เลี้ยงเกิดขึ้นมากมายในคริสตจักร ให้มีคนที่มีใจหิวกระหายต้องการดูแลฝูงแกะของพระเจ้า  และขอพระเจ้าประทานให้เขาเหล่านั้นเป็นผู้เลี้ยงอันดี นำพาฝูงแกะของพระองค์ไปที่ทุ่งหญ้าเขียวสด

ขอพระเจ้าประทานให้มีคนที่อยู่ประจำบ้านแต่ละหลัง เพื่อจะใช้เป็นที่รองรับคนในละแวกเดียวกัน เป็นการประชุมกลุ่มสามัคคีธรรมตามบ้าน

ขอพระเจ้าประทานให้มีผู้นำเกิดขึ้นมากมายในคริสตจักรของเราเพื่อดูแลงานด้านต่างๆ และขอพระเจ้าอวยพรให้สมาชิกอาสาตัวมีส่วนร่วมในงานนั้นๆ

ขอเช่นนี้ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน...


เรื่องการฟื้นฟูที่เขียนไว้ในปี 2009

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

พันธกิจปี 2011

วันนี้กลับมานั่งบันทึกความคิดต่อ เพราะได้อ่านสิ่งที่บันทึกไว้สมัยไปอิสราเอล ถ้าครั้งนั้นได้พบเห็น ได้พูดคุยกับคนต่างๆ แล้วไม่ได้นำมาเขียนแบ่งปันวันต่อวัีน ขณะที่อยู่ที่นั่น ป่านนี้คงลืมไปหมดแล้ว รู้สึกได้ถึงประโยชน์ของบล็อกที่เขียน   วันนี้จะได้เขียนต่อบันทึกถึงสิ่งที่ปรารถนาจะทำในปี 2011 นี้

ได้เทศน์ไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2010 ในลูกา 4:18 พระวิญญาณแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่บนข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์ได้ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนยากจน พระองค์ได้ทรงใช้ข้าพเจ้าให้รักษาคนที่ชอกช้ำระกำใจ ให้ร้องประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ให้ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้เห็นอีก ให้ปล่อยผู้ฟกช้ำเป็นอิสระ  
นี่คือโครงคำเทศน์

ทรงมาเพื่อใคร  (ลก.4:18-21)
1.                เพื่อผู้ที่รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ      
... คนยากจน
2.                เพื่อผู้ที่หัวใจสลาย
คนที่ชอกช้ำระกำใจ  (ปรากฏในฉบับดั้งเดิม)
3.                เพื่อผู้ที่จิตวิญญาณถูกคุมขัง
... บรรดาเชลย คนตาบอด คนที่ถูกบีบบังคับ

คำเทศน์ในตอนนี้ซึ่งมาจากพระธรรมลูกาที่พระเยซูได้อ่านพระธรรมอิสยาห์นั้น ก็ขอพระเจ้าไว้ ปรารถนาจะได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในคริสตจักรในปีนี้ ขอพระเจ้ามาปลอบประโลมคนที่รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ  ขอพระเจ้ามาปลอบประโลมคนที่ชอกช้ำระกำใจ  ขอพระเจ้ามาปลอบประโลมคนที่เป็นเชลย และปลดปล่อยเขาจากที่คุมขังนั้น  ขอให้เกิดขึ้นตามพระทัยเมตตาของพระเยซูคริสต์ และขอพระเจ้าได้ทรงนำให้รู้ว่าจะต้องทำประการใด

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บันทึกความปรารถนาที่ต้องการให้พระเจ้าทรงกระทำในชีวิต

ตอนที่เขียนความคิดต่างๆนี้นั้น ก็เกือบจะสิ้นปี 2010แล้ว ผมพบว่าสิ่งต่างๆที่ได้เขียนไปก่อนหน้านี้นั้น ถ้าไม่ได้เขียนไว้ ผมคงลืมไปหมดสิ้นแล้ว

ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่าควรมีการบันทึกสิ่งต่างๆที่ปรารถนาจะเห็นบังเกิดขึ้นในคริสตจักรหรือในชีวิตของผม ลงไว้ในบล็อกเพื่อป้องกัีนการลืม เมื่อเวลาผ่านไป

สิ่งแรกก็คืออายุการรับใช้  ผมคงไม่มีการเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 60 ปีเป็นแน่  ผมขอเป็นแบบที่ผู้รับใช้รุ่นก่อนๆในพระคัมภีร์เป็นกัน คือรับใช้ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ไม่ว่าจะเป็นโมเสส เปาโล เปโตร ฯลฯ

แล้วงานรับใช้อะไรล่ะที่ประสงค์จะทำ  ผมคงไม่เลือกว่าจะทำอะไรเป็นแน่ แต่ขอให้พระเจ้าเลือกใช้ผมตามที่พระองค์เห็นควรแล้วกัน  ถ้าขอได้ผมคงขอทำทุกอย่างครับ ทุกอย่างในของประทานทั้งห้า ขอทำหมด ถ้าเป็นที่พอพระทัยและเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตผม

สำหรับปีนี้ปี 2010 ก็ได้ทำในสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงนำแล้ว บางสิ่งก็ยังไม่ได้ทำ จะทำปีหน้า การจัดทัพ การประสานความร่วมมืออ้นดีต่อกันและกันในหมู่สมาชิก  การจัดองค์กร การแสวงหาพระเจ้าด้วยการชักชวนสมาชิกให้อดอาหารอธิษฐาน  การเริ่มต้นงานในพันธกรทั้งห้า  การหนุนใจสมาชิกให้มีความห่วงใยในคนต่างๆที่มีความทุกข์และนำเขาให้มาพบกับสันติสุขแท้จริง การขอพระเจ้าประทานความสุขให้เกิดขึ้นกับสมาชิกทุกคน  การพัฒนาสมาชิกไปสู่ความไพบูลย์ในองค์พระเยซูคริสต์  การเตือนใจสมาชิกให้รับรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของยุค  การจุดไฟของพระเจ้าในท่ามกลางสมาชิกทั้งหลาย  การแบ่งกลุ่มคนหลากหลายในคริสตจักรและการดูแล  การสอนสมาชิกให้มีความถ่อมใจ ไม่ยกตนข่มท่าน การสอนสมาชิกให้ยกพระเยซูขึ้นสูง ให้พระเยซูคริสต์ได้รับพระเกียรติแต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช่ให้มนุษย์ได้รับเกียรติ ฯลฯ ทุกสิ่งที่พระเจ้าดลใจ พระเจ้าเร้าใจ พระเจ้าบอก ตั้งใจตอบสนองพระองค์ทั้งสิ้น

ขอพระเยซูคริสต์ได้รับพระเกียรติ และทรงนำหน้าเราต่อไป ในปี 2011 ขอให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงเป็นปีแห่งการเริ่มต้นใหม่  ให้คริสตจักรมีความเข้มแข็งในด้านต่างๆเพิ่มมากขึ้นไปอีก ให้ไม่เป็นเพียงงานที่ทำกับคริสเตียนเท่านั้น แต่เป็นงานทีจะส่งผลดีต่อสังคมไทยและสังคมโลก ถ้าเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า

ปีหน้าก็จะขอพระเจ้าทรงกระทำในคริสตจักรให้เป็นพระพรต่อคริสตจักรความหวังในภาคกลางและคริสตจักรความหวังทั้งประเทศไทย  ขอพระเจ้าประทานฐานะทางการเงินให้มีเพียงพอเพื่อจะทำสิ่งอื่นๆต่อไปในปี 2012ด้วย (มีหลายเรื่องอยู่ในใจแล้ว ขอพระเจ้าประทานการทรงนำด้วย)   ขอพระเจ้าช่วยให้ปีหน้าคริสตจักรความหวังกรุงเทพฯจะจุดไฟในชุมชนต่างๆให้ติด ให้เป็นแสงสว่างแก่คนในชุมชนนั้น  ขอพระเจ้าประทานการทรงนำให้รู้แนวทางในการทำพันธกิจปลอบประโลม  ขอพระเจ้าประทานหมายสำคัญและการอัศจรรย์ให้บังเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ขอการอัศจรรย์เพิ่มพูนขึ้นในคริสตจักรความหวังกรุงเทพฯมากขึ้นไปกว่าปีนี้และมากขึ้นๆไปเรื่อยๆตลอดชีวิตการรับใช้

ในอนาคตขอพระเจ้าทรงนำให้รู้ว่าจะจัดการประกาศใหญ่ในสนามกีฬาได้อย่างไร ขอพระเจ้าประทานความสามารถและของประทานต่างๆเพื่อจะสามารถจัดงานให้เป็นที่ถวายพระเกียรติพระเจ้าได้  ขอพระเจ้าประทานการอวยพรมาถึงสมาชิกทุกคนให้สูงขึ้นทางเดียว เป็นผู้ที่มีผลต่อคนในสังคมไทยได้  ขอพระเจ้าช่วยให้เรารู้อนาคตของกรุงเทพมหานคร เพื่อเราจะรู้ว่าเราควรจะสร้างที่ประชุมชั้น3หรือไม่  ขอพระเจ้าประทานปัญญาให้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปสำหรับกรุึงเทพฯและภาคกลาง

ปี 2012 ถ้าเป็นที่พอพระทัย เราจะก้าวไปทำพันธกิจโลกและพันธกิจชา่ติพันธุ์  อาเมน..

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เริ่มเยี่ยมแคร์ อธิษฐานสถาปนาแคร์

        อาทิตย์นี้แล้วจะเริ่มไปเยี่ยมแคร์ต่างๆ และอธิษฐานขอพระเจ้าสถาปนาแคร์ที่นั่น เป็นแคร์แห่งพระพร การเสริมสร้าง แคร์ประกาศ แคร์อภิบาล แคร์ผู้ปลอบประโลม ฯลฯ ขอพระเจ้าทรงเจิมแคร์ต่างๆเพื่อเป็นความหวังสำหรับคนกรุงเทพฯ  ไปที่ไหนมาแล้วจะพยายามถ่ายภาพมาลงไว้ที่facebookครับ ชื่อผมในfacebook คือ Paul P Wittayaครับ และอีเมล์ที่ใช้คือ paul2020@windowslive.comครับ

วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

แนวคิดและไอเดียที่จะทำ

         วันนี้มานั่งบันทึกสิ่งที่ผ่านมาแล้ว และสิ่งที่จะเกิดต่อไปในอนาคต  ถ้าเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ก็ขอพระองค์ประทานความสำเร็จให้
          ก่อนผมจะรับหน้าที่นี้ พระเจ้าได้ใส่ความคิดเรื่องการเป็นศิษยาภิบาลคริสตจักรความหวังกรุงเทพฯ มาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมปี09แล้ว ซึ่งตอนนั้นผมก็คิดว่า คิดอย่างนี้ได้ไง นี่ไม่ได้มาจากพระเจ้า แล้วผมก็อธิษฐานในนามพระเยซูขับไล่ความคิดนี้ไป  อธิษฐานเท่าไรความคิดนี้ก็ไม่ยอมไป  ก็เลยจดความคิดที่คิดจะทำเก็บเอาไว้ และไม่ได้บอกใครแม้แต่ภรรยา จนกระทั่งปลายเดือนธันวาคมถึงเปิดเผยความคิดนี้ให้ทราบ สิ่งที่ผมถูกผีมารซาตานโจมตีตอนต้นเดือนธันวาคม ดังได้เล่าไว้ในบล็อกที่ผมเขียนเรื่องพระวจนะนั้น พี่น้องคนหนึ่งในคริสตจักรบอกว่า ไม่ใช่เพราะเรื่องงานชนเผ่าที่ไปประกาศแน่ เพราะถ้าเป็นเพียงเรื่องการประกาศในงานชนเผ่าแค่นั้น ผีมารคงไม่เล่นงานหมายเอาชีวิตเป็นแน่  ต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งก็ได้แก่เรื่องการมารับบทบาทหน้าที่ในคริสตจักรความหวังกรุงเทพฯ
          ก่อนมาทำหน้าที่เต็มตัว พระเจ้าก็ให้ความคิด คำจากพระคัมภีร์ และเมื่อมารับหน้าที่เต็มตัวแล้วก็มีความคิดเริ่มต้นจากการพาสมาชิกให้อธิษฐานอดอาหารแสวงหาพระเจ้าสำหรับคริสตจักร ตามมาด้วยการทำงานบริหารด้วยของประทานทั้งห้า
          เริ่มจากผู้ประกาศ เริ่มฝึกสมาชิกให้ชักชวนคนมาเชื่อพระเจ้าที่คริสตจักร ประจวบเหมาะกับมีงานอีสเตอร์ และวิทยากรในค่ายก็มีของประทานผู้ประกาศด้วย จึงไหลมาตามกระแสนี้ ไม่ใช่เหตุบังเอิญเป็นแน่  นี่เป็นการจัดเตรียมของพระเจ้า   อันดับต่อไปคือฝึกให้สมาชิกประกาศ เป็นพยานง่ายๆ โดยใช้สื่อคือใบปลิวคำพยาน ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ทำจริงจังนัก แต่พูดไปบ้างแล้ว  และสุดท้ายฝึกสมาชิกให้นำรับเชื่อเป็น ไม่เพียงรอพาคนมาคริสตจักรเท่านั้น  พระเจ้าบอกผมให้จุดไฟในการประกาศ เริ่มจากเล็กๆน้อยๆ จนกระทั่งไฟลุกท่วมโบสถ์ และกระจายออกไปภายนอกด้วย  นี่คือไฟการฟื้นฟูเรื่องการประกาศ
          ต่อมาที่พระเจ้าใส่ความคิดไว้ให้ทำคือเรื่องแคร์ จุดไฟให้ติดในแคร์แต่ละแคร์ และเตรียมแคร์ไว้เป็นทีมผู้ปลอบประโลมใจ ทีมประกาศ ทีมอภิบาล  ฝึกและให้ความสำคัญกับกลุ่มแคร์ให้มีการเคลื่อนไหวของพระเจ้าในแต่ละแคร์ ให้มีหมายสำคัญการอัศจรรย์เกิดขึ้นโดยพระคุณพระเจ้า

ครับ ที่เล่าให้ฟังนี้ก็เป็นเรื่องหลักๆใหญ่ๆ  เรื่องรองๆลงไปย่อยๆ ก็มีอีกหลายสิ่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งคงจะไม่เล่าให้ฟังละครับ เรื่องการจัดสายการปกครองในคริสตจักร  เรื่องการทำงานเป็นทีมผู้นำในระดับต่างๆ เรื่องการทำงานพันธกิจ เรื่องช่วงเวลาในการทำงานช่วงต่างๆ  เรื่องการฝึกและสร้างสมาชิกไปสู่ความไพบูลย์ในองค์พระเยซูคริสต์ และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ครับ ก็คงค่อยๆทำไป โดยพระคุณพระเจ้าและขอให้ทุกสิ่งที่ตั้งใจทำเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าครับ