วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

พระพรจากการไปแบ่งปันพระพร

มาเล่าต่ออีกเรื่องครับ วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญไปเทศนาที่คริสตจักรมหาชล สรรเสริญพระเจ้าได้พบเพื่อนร่วมรับใช้ท่านต่างๆ นานมากแล้วครับ ร่วมยี่สิบปี พี่น้องในคริสตจักรความหวังฯคงไม่รู้จักแล้วครับ นานมากแล้ว ที่ไม่ได้พบกัน บางท่านก็บอกว่ารู้จักผม และผมไม่รู้จักเขา เพราะสมัยอยู่ที่ความหวังนั้นเป็นสมาชิกเท่านั้น แต่ตอนนี้เป็นผู้รับใช้พระเจ้าในคริสตจักรครับ ก็พบปะกันด้วยความชื่นชมยินดีครับ คนเก่าๆที่เคยร่วมรับใช้กันมาสมัยก่อนก็ได้แยกย้ายกันไปปฏิบัติภาระกิจตามน้ำพระทัยพระเจ้า

ผมไปเยี่ยมที่คริสตจักรก็ทราบและเห็นการสำแดงของพระเจ้าสำหรับพี่น้องที่คริสตจักรมหาชล ก็เชื่อแน่ว่านำความชื่นชมยินดีและทำให้รู้ชัดเจนว่าพระเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกเขาจริงๆ

ต่อมาผมเดินออกไปภายนอกอาคาร ไปเจอคอกแกะเข้า ชอบใจแกะตัวเป็นๆจริงๆครับ ผมว่าเป็นสัตว์ที่ไม่เหมือนสัตว์ประเภทอื่นๆ ดูมีความสุภาพมาก และไม่มีพิษมีภัย  เขายังชอบอยู่ด้วยกันกับแกะตัวอื่นๆ  เห็นเขาเอาหัวไซ้เข้าไป อยู่ร่วมกันเป็นกระจุกๆ ไม่แยกออกมายืนตัวเดียว  อือม! นี่ละมั๊งที่พระเจ้าให้ภาพการอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนของคริสเตียน เป็นเหมือนภาพของฝูงแกะที่อยู่รวมกันเป็นฝูงๆ
คอยเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นี่ละมั๊งKoinonia สามัคคีธรรม  กำลังอินครับ กำลังสอนเรื่องกลุ่มสามัคคีธรรมตามบ้านอยู่...

อือม!  เราต้องอยู่ร่วมกันรวมกันเป็นฝูงๆภายใต้ผู้เลี้ยงประเสริฐคือพระเยซูคริสต์ ยิ่งใกล้วันพระเยซูมาเท่าไร เราคงถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นเหมือนพระเยซูมากขึ้นเท่านั้น  ผมกับอ.ราชกิจบอกอ.ยุทธศักดิ์(ผู้ใหญ่ในแวดวงคริสเตียน) เมื่อสองสัปดาห์ก่อนว่าขอเวลาฟื้นฟูคริสตจักรอีก 1 ปีครับ ปี 2012 เป็นต้นไป จะมาร่วมลงแรงอย่างเต็มที่สำหรับงานพระเจ้าในประเทศไทยครับ ตอนนี้ก็ขอให้อ.ราชกิจเป็นตัวแทนของคริสตจักรไปร่วมประชุม ร่วมปฏิสัมพันธ์ต่างๆไปก่อน ผมขอลงแรงอย่างเต็มที่ในคริสตจักรความหวังกรุงเทพฯ ฯลฯ อีก 1 ปีครับ

ฝากพี่น้องดูแลฟื้นฟูงานในกทม. และจังหวัดใกล้เคียงเต็มที่ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

ความเข้าใจเรื่องการฟื้นฟู

วันนี้บันทึกอีกเรื่องครับ ก่อนจะลืม คือว่าสัปดาห์นี้มีประชุมผู้นำครน.กันที่คริสตจักร ระหว่างที่นมัสการและอธิษฐานนั้น พระเจ้าก็ได้ทำให้ผมเข้าใจ(ในความคิดผม)เรื่องการฟื้นฟูในประเทศไทย คือผมมีคำถามว่า พระเจ้าสัญญาว่าจะมีการฟื้นฟูในไทย แต่สิ่งที่ผมเห็นในคริสตจักรทั้งหลายทั่วประเทศไทย นับแต่ผมเชื่อพระเจ้ามาใหม่ๆ(เชื่อที่คจ.อื่น) ผมเห็นสิ่งต่างๆซึ่งผมคิดว่าจะไม่นำมาซึ่งการฟื้นฟูประเทศไทยแน่เลย ดังนั้นเองผมสงสัยคำเผยพระวจนะนี้มาก และไม่ใช่เพียงคำเผยพระวจนะเท่านั้น พระเจ้ายังได้ตรัสกับผมส่วนตัวเมื่อผมเชื่อใหม่ๆว่า พระเจ้าจะทำการฟื้นฟูประเทศไทย  แล้วเหตุการณ์นี้จะเป็นเช่นไร

พระเจ้าให้ผมเข้าใจอย่างนี้ว่า มีสองส่วนทั้งการฟื้นฟูประเทศไทยจริงๆ และการฟื้นฟูในคริสตจักรต่างๆ  ทั้งสองส่วนนี้เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังต้องการเห็นพระองค์เสด็จมาเยี่ยมประเทศไทยจริงๆ เปลี่ยนแปลงประเทศไทยจากสภาพความผิดบาป ให้คนหันกลับมาแสวงหาพระเจ้าผู้เที่ยงแท้ ไม่หลงงมงายอยู่กับสิ่งที่ไม่จริงแท้ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยพระคุณพระเจ้า ไม่ใช่ด้วยการกระทำดีของเรา ไม่ใช่เพราะว่าคริสตจักรในประเทศไทยดีแล้ว พร้อมแล้ว เหมือนเมื่อเรามาเชื่อพระเจ้า ไม่ใช่เพราะความดีของเรา แต่เป็นด้วยพระคุณพระเจ้า เป็นพระหัตถ์ของพระเจ้าจริงๆที่เคลื่อนลงมาในประเทศไทย  สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องจับตามองกันต่อไปด้วยใจหิวกระหายแสวงหาพระเจ้า

อีกส่วนหนึ่งคือในคริสตจักรต่างๆ พระเจ้าให้ความเข้าใจกับผมว่า คริสตจักรต่างๆจะต้องแสวงหาพระเจ้าเพื่อจะรู้น้ำพระทัยพระเจ้าสำหรับคริสตจักรนั้น และตอบสนองทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ เหมือนที่พระเยซูได้กล่าวไว้ใน      John 6:38 เพราะ​ว่า​เรา​ได้​ลง​มา​จาก​สวรรค์ มิใช่​เพื่อ​กระทำ​ตาม​ความ​ประสงค์​ของ​เรา​เอง แต่​เพื่อ​กระทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา

พระเยซูได้เข้ามาในโลกไม่ใช่เพื่อทำตามใจตนเอง แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของพระบิดาผู้ทรงใช้พระองค์มา

เราก็เช่นกัน  เราก็ต้องทำตามพระประสงค์ของพระเยซูผู้ทรงใช้เรามา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คริสตจักรแต่ละคริสตจักรจะต้องทราบน้ำพระทัยพระเจ้าสำหรับคริสตจักรนั้น และทำตามน้ำพระทัยนั้น  พระเยซูได้บอกว่า     John 6:63 จิต​วิญญาณ​เป็น​ที่​ให้​มี​ชีวิต ส่วน​เนื้อ​หนัง​ไม่​มี​ประโยชน์​อัน​ใด ถ้อยคำ​ซึ่ง​เรา​ได้​กล่าว​กับ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​นั้น เป็น​จิต​วิญญาณ​และ​เป็น​ชีวิต​

ถ้อยคำที่พระเยซูได้กล่าวนั้น เป็นถ้อยคำRhema ถ้อยคำที่รับการดลใจ ไม่ใช่ถ้อยคำLogosที่เขียนไว้แล้ว  Rhemaนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องแสวงหาพระเจ้า จะเป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิตแก่เราได้

ดังนั้นถ้าคริสตจักรปรารถนาจะเห็นการฟื้นฟูเกิดขึ้นในคริสตจักร คริสตจักรนั้นๆก็ต้องแสวงหาพระเจ้า และทราบRhema น้ำพระทัยสำหรับคริสตจักรนั้นๆว่า พระองค์ประสงค์สิ่งใดในคริสตจักรนั้น คริสตจักรนั้นๆก็ควรตอบสนอง และทำตาม  นี่แหละที่ข้าพเจ้าได้ความเข้าใจเรื่องการฟื้นฟูในคริสตจักร คือเรื่องการทำตามน้ำพระทัยพระเยซูในคริสตจักรนั้น

สำหรับคริสตจักรของเราอย่างที่ผมได้เคยบอกไปแล้วครับ และกำลังแจ้งให้ทราบอยู่ในทุกวันอาิทิตย์  ขอพระเจ้าอวยพระพร เสริมกำลังทุกท่านครับ



วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

การฟื้นฟู

ช่วงที่ไม่สบาย เป็นช่วงที่ได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆ เป็นช่วงที่ได้แสวงหาพระเจ้าดีจริงๆ  วันนี้จึงขอบันทึกความตั้งใจไว้อีกเรื่อง ที่ปรารถนาจะเห็นคนไทยได้รับความรอด เป็นความปรารถนานับจากวันที่เชื่อพระเจ้าใหม่ๆแล้วว่าอยากเห็นพระเจ้ามาทำการฟื้นฟูประเทศไทย ให้คนไทยนับแสนได้หันกลับจากทางเก่าทางผิดบาปกลับมาดำเนินอยู่ในทางพระเจ้า  ข้าพเจ้าเฝ้ารอ ข้าพเจ้าเฝ้าอธิษฐานเผื่อเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆ อธิษฐานครั้งใดมักจะจบลงที่น้ำตาท่วมจอ ด้วยภาระใจอย่างแรงกล้า เมื่อข้าพเจ้ามองดูในพระคัมภีร์ พระเจ้าจะทำสิ่งใดก็มักจะเป็นไปตามคำทูลของคนของพระเจ้าในโลกนี้  ข้าพเจ้าฝันที่จะเห็นกิจการที่พระองค์จะลงมากระทำด้วยพระองค์เองในประเทศไทย  ข้าพเจ้าเห็นแล้วในคริสตจักรของเราเล็กๆน้อยๆ แต่ข้าพเจ้าบอกว่าไม่พอพระเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงมีพระเมตตากรุณาและขอทรงกระทำอีกพระเจ้าข้า  ขอทำแบบที่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อข้าพเจ้าจะสามารถนำ้ไปเล่าให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานได้ฟังถึงพระเมตตาคุณอันอุดมของพระองค์ ยิ่งใกล้วันเสด็จกลับมาของพระองค์มากขึ้นเท่าใด  ข้าพเจ้าก็จะยิ่งเห็นสิ่งที่พระองค์กระทำในโลกนี้มากขึ้นเท่านั้น

ขอพระเจ้าดลใจคนไทย เร้าใจคนไทย ให้เขามีความหิวกระหาย ต้องการพระองค์ อยากเขื่อพระองค์ แล้วก็เดินเข้ามาในคริสตจักรเอง และขอเชื่อ  ขอพระองค์กระทำอีกพระเจ้าข้า

ขอพระเจ้าประทานให้มีผู้เลี้ยงเกิดขึ้นมากมายในคริสตจักร ให้มีคนที่มีใจหิวกระหายต้องการดูแลฝูงแกะของพระเจ้า  และขอพระเจ้าประทานให้เขาเหล่านั้นเป็นผู้เลี้ยงอันดี นำพาฝูงแกะของพระองค์ไปที่ทุ่งหญ้าเขียวสด

ขอพระเจ้าประทานให้มีคนที่อยู่ประจำบ้านแต่ละหลัง เพื่อจะใช้เป็นที่รองรับคนในละแวกเดียวกัน เป็นการประชุมกลุ่มสามัคคีธรรมตามบ้าน

ขอพระเจ้าประทานให้มีผู้นำเกิดขึ้นมากมายในคริสตจักรของเราเพื่อดูแลงานด้านต่างๆ และขอพระเจ้าอวยพรให้สมาชิกอาสาตัวมีส่วนร่วมในงานนั้นๆ

ขอเช่นนี้ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน...


เรื่องการฟื้นฟูที่เขียนไว้ในปี 2009

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

พันธกิจปี 2011

วันนี้กลับมานั่งบันทึกความคิดต่อ เพราะได้อ่านสิ่งที่บันทึกไว้สมัยไปอิสราเอล ถ้าครั้งนั้นได้พบเห็น ได้พูดคุยกับคนต่างๆ แล้วไม่ได้นำมาเขียนแบ่งปันวันต่อวัีน ขณะที่อยู่ที่นั่น ป่านนี้คงลืมไปหมดแล้ว รู้สึกได้ถึงประโยชน์ของบล็อกที่เขียน   วันนี้จะได้เขียนต่อบันทึกถึงสิ่งที่ปรารถนาจะทำในปี 2011 นี้

ได้เทศน์ไปเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2010 ในลูกา 4:18 พระวิญญาณแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่บนข้าพเจ้า เพราะว่าพระองค์ได้ทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนยากจน พระองค์ได้ทรงใช้ข้าพเจ้าให้รักษาคนที่ชอกช้ำระกำใจ ให้ร้องประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย ให้ประกาศแก่คนตาบอดว่าจะได้เห็นอีก ให้ปล่อยผู้ฟกช้ำเป็นอิสระ  
นี่คือโครงคำเทศน์

ทรงมาเพื่อใคร  (ลก.4:18-21)
1.                เพื่อผู้ที่รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ      
... คนยากจน
2.                เพื่อผู้ที่หัวใจสลาย
คนที่ชอกช้ำระกำใจ  (ปรากฏในฉบับดั้งเดิม)
3.                เพื่อผู้ที่จิตวิญญาณถูกคุมขัง
... บรรดาเชลย คนตาบอด คนที่ถูกบีบบังคับ

คำเทศน์ในตอนนี้ซึ่งมาจากพระธรรมลูกาที่พระเยซูได้อ่านพระธรรมอิสยาห์นั้น ก็ขอพระเจ้าไว้ ปรารถนาจะได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในคริสตจักรในปีนี้ ขอพระเจ้ามาปลอบประโลมคนที่รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ  ขอพระเจ้ามาปลอบประโลมคนที่ชอกช้ำระกำใจ  ขอพระเจ้ามาปลอบประโลมคนที่เป็นเชลย และปลดปล่อยเขาจากที่คุมขังนั้น  ขอให้เกิดขึ้นตามพระทัยเมตตาของพระเยซูคริสต์ และขอพระเจ้าได้ทรงนำให้รู้ว่าจะต้องทำประการใด