วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554

บันทึกความในใจ

     วันนี้นึกถึงเรื่องการที่พระเจ้าจะมาทำการยิ่งใหญ่ในโบสถ์เรา เป็นความหิวกระหายอย่างมากครับที่่อยากเห็น แล้วก็นึกถึงผู้นำคนหนึ่งจากต่างประเทศที่มาเยี่ยมในคริสตจักรเราในขณะที่ผมเพิ่งเป็นศิษยาภิบาลใหม่ๆ เขาไ้ด้เผยพระวจนะตอนหนึ่งว่า "พระเจ้าจะฟื้นฟูคริสตจักรนี้อย่างใหญ่หลวง  พระเจ้าจะเขย่าประเทศไทย ในจิตวิญญาณลึกๆสัมผัสได้ว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นใหญ่ๆ 2 เรื่อง คือ แผ่นดินไหวและพายุใหญ่ เพราะว่าดินฟ้าอากาศแปรปรวน เพราะเหตุภัยพิบัติ แผ่นดินไหวกับพายุใหญ่เป็นเหตุให้จิตใจของคนกลัวและเริ่มที่จะเข้าวิ่งกรู่เข้ามาในคริสตจักร  พระคำของพระเจ้าในฮักกัย พระเจ้าจะมาเขย่าอีกครั้ง เขย่าอีกครั้ง เขย่าอีกครั้ง เขย่าอีกครั้ง เขย่าบรรดาประชาชาติ เขย่าบรรดาประชาชาติ  เวลานั้นเมื่อเขย่าบรรดาประชาชาติ จะเห็นเงินและทองจากบรรดาประชาชาติจะถูกส่งมาจากทุกสารทิศเข้ามาในคริสตจักรแห่งนี้"


     คำเผยพระวจนะนี้ก็ผ่านมาประมาณปีหนึ่งได้แล้ว พอมีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นในโลกและในประเทศไทยเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ความแปรปรวน แผ่นดินไหว ก็นึกถึงเรื่องนี้ และเอากลับมาดูอีก และก็คิดว่าจะเป็นอย่างไรหนอ  ผมไม่ดูหมิ่นคำเผยพระวจนะครับ แต่เก็บไว้ในใจ และดูผลจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นว่าเป็นไปตามคำเผยพระวจนะหรือไม่ เพราะ 1Cor 14:29 ฝ่าย​พวก​ผู้เผย​พระ​วจนะ​นั้น​ให้​พูด​สอง​คน​หรือ​สาม​คน และ​ให้​คน​อื่น​วินิจฉัย​ข้อความ​ที่​เขา​พูด​นั้น​


     ในที่นี้ให้มีการวินิจฉัยด้วย และอีกข้อ  1Thess 5:20 อย่า​ประมาท​คำ​เผย​ข้อ​ลับ​ลึก​
1Thess 5:21 จง​พิสูจน์​ทุก​สิ่ง สิ่ง​ที่​ดี​นั้น​จง​ยึดถือ​ไว้​ให้​มั่น​
 
     ข้อนี้บอกว่าอย่าประมาทคำเผย ดังนั้นเราดูถูกดูหมิ่นไม่ได้ แต่เราก็ไม่ใช่เชื่อทุกสิ่งที่มีคนมาเผยพระวจนะหมดทันที เพราะในโครินธ์บอกให้เราต้องวินิจฉัยข้อความที่เขานั้นเผยด้วย  เพราะถ้าผู้เผยพระวจนะไม่เติบโตกับพระเจ้า ก็จะมีสิ่งที่เป็นความคิดตนเองเจือเข้าไปด้วย

     ผมถือว่าลักษณะชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  1 โครินทร์ 13 เป็นเรื่องลักษณะชีวิตคือความรัก  แม้เรามีของประทานมากมาย มีความสามารถมากมาย มีความรู้ มีความเชื่อ  แต่ก็ใช้ได้เพียงในโลกนี้เท่านั้น ความเชื่อ ความหวังใจก็เช่นกัน ใช้เมื่อเราอยู่ในโลกนี้  แต่ความรักเป็นเรื่องลักษณะชีวิต ใหญ่สุด  ไปสวรรค์ความรักก็ยังไปกับเราด้วย  แต่ของประทาน ความสามารถ ความรู้ ความเชื่อ ความหวังใจ ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว เพราะพบพระเจ้า อยู่กับพระเจ้าหน้าต่อหน้าแล้ว

     ดังนั้น พี่น้องคริสเตียนทั้งหลายจึงควรมีประสบการณ์ความรักของพระเจ้าอยู่ในตัวเรา  อาิทิตย์นี้ผมจะเทศน์เรื่องนี้ครับ

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

สิ่งที่พระเยซูทำครั้งที่ 6

     คิดไปคิดมาแล้วก็บันทึกไว้เสียหน่อยตรงนี้เพื่อจะไม่ลืม ว่าพระเยซูคริสต์ได้ทำสิ่งต่างๆเกิดขึ้นในคริสตจักรอีกครั้งหนึ่งเมื่อวาน ผมจะไม่เล่าครับว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่บันทึกไว้เพื่อจะได้จดจำได้ว่าพระองค์ทำสิ่งใดบ้าง เกิดขึ้นเมื่อไร  ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้จำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่เหมือนอย่างที่พระองค์นำคนหลายๆคนได้เข้ามาเชื่อวางใจในคริสตจักรเอง ซึ่งเหตุการณ์เหล่านั้นผมไม่ได้จดเอาไว้ จึงทำให้จำไม่ได้แล้วว่าเกิดขึ้นกี่ครั้งแล้ว รู้แต่เพียงว่าหลายครั้งแล้วและเหตุการณ์นั้นเป็นอย่างไรบ้าง ไม่จดไว้ ไม่จำไว้ จึงทำให้ลืมเหตุการณ์ต่างๆ  สรรเสริญพระเจ้า ขอให้พระเกียรติเป็นของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว

ปล. ความจริงแล้ว เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้อาจเกิดขึ้นมากกว่านี้แล้วก็ได้ นี่ผมเอามาเล่าเฉพาะที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับตนเองโดยตรง

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

การอัศจรรย์ครั้งใหม่ ครั้งที่ 5

สวัสดีครับ หลังจากได้เล่าเรื่องส่วนตัวที่พระเจ้ารักษาผมหายโรคไปแล้ว ก็ได้รับฟังการหายโรคของอีกคนหนึ่ง เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ น้องของคุณซิงค์อยู่ที่เชียงรายป่วยเป็นเชื้อราในสมอง อาการที่เป็นผมยังไม่ทราบชัดเจน ผมเพียงทราบว่าน้องเขาป่วยชื่อโย และเขาได้ขึ้นไปเยี่ยมน้องที่เชียงราย และเมื่อวันพฤหัสที่แล้วเขาได้โทรศัพท์มาเข้าเครื่องอ.จำเนียรและขอช่วยอธิษฐานเผื่อน้องเขา ที่ป่วยเป็นเชื้อราในสมอง  เขาบอกว่าหมอบอกให้ทำใจเพราะอาจเสียชีวิตได้และไม่สามารถรักษาให้หายได้ แม้ยังมีชีวิตอยู่แต่เชื้อราที่อยู่ในสมองจะทำลายสมอง จะไม่เหมือนเดิม  ในวันนั้นก็ได้ร่วมใจกันทั้งผมและอ.จำเนียร โดย อ.จำเนียรได้อธิษฐานเผื่อน้องร่วมกับคุณซิงค์ในโทรศัพท์

วันนี้ผมได้ถามคุณซิงค์คร่าวๆทางโทรศัพท์ ได้รับทราบข่าวว่า ตอนนี้น้องของเขาหายดีแล้ว ไม่เป็นไรและความทรงจำเป็นปกติ อาการทางสมองก็เป็นปกติ  สรรเสริญพระเจ้า   ไว้เจอกันหน้าต่อหน้า จะสอบถามเพื่อมาบันทึกคำพยานนี้อีกครั้งครับ รวมทั้งจะได้สอบถามความรู้ทางการแพทย์กับหมอด้วย

สรรเสริญพระเจ้าสำหรับอาวุธพิสัยไกลคือคำอธิษฐานของเรา เราร่วมใจกันอธิษฐานที่นี่ แต่ไปมีผลต่อคนที่เชียงราย

เกี่ยวกับโรคนี้ ถ้าในอดีตที่ผ่านมาก็เช่นดารานักร้องบิ๊ก ดีทูบี ตกคูน้ำ เชื้อราเข้าสมอง และเสียชีวิตไป

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

โรคภัยไข้เจ็บส่วนตัวบ้าง + ผล ณ วันที่ 22 มี.ค.

อธิษฐานเผื่อพี่น้อง อธิษฐานเผื่อโบสถ์มาก็พอสมควร ไปไปมามาโรคภัยไข้เจ็บก็มาเยือนโดยไม่รู้ตัว วันเสาร์ที่ผ่านมาเริ่มต้นด้วยปวดเกร็งในช่องท้อง  ตามมาด้วยการอาเจียร  ตกกลางคืนตามมาด้วยอาการไข้ขึ้น หนาวสั่น  ไม่มีความอยากรับประทานอาหาร พอวันอาทิตย์เย็นเลิกโบสถ์ถึงไปหาหมอ หมอก็วินิจฉัยว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้ยามาหลายขนาน  อ.หมอจินตนาที่คริสตจักรก็เป็นห่วงมาก อยากให้ตรวจไปที่กรวยไตเกรงอักเสบ พอดีค่อยยังชั่วบ้างแล้ว เข้ามาที่สนง.วันอังคาร ได้ฟังคำแนะนำให้หมอช่วยตรวจเพิ่มเพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปเจาะเลือดประจำอยู่แล้ว

ตอนกลางคืนมาก็ฝันเรื่องคริสตจักรและได้ข้อพระคัมภีร์มาข้อหนึ่ง คือ สดด. 68:19 สาธุการ​แด่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ผู้​ทรง​ค้ำ​ชู​เรา​ทั้ง​หลาย​อยู่​ทุก​วัน ​พระ​เจ้า​ผู้​ทรง​เป็น​ความ​รอด​ของ​เรา   ตื่นและรีบท่องไว้กลัวลืม พร้อมกับหาพระคัมภีร์มาเปิดดูว่าพระคำว่าอย่างไร  อ่านแล้วตอนนั้นก็รู้สึกเฉยๆ เลยลงไปนอนต่อ  พอตอนเช้ามาอ่านดูจากฉบับอมตธรรม อ่านว่า   ขอสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ผู้ทรงแบกรับภาระหนักของเราทุกวัน    แหม.. ยอดเยี่ยมเลยครับ อ่านแล้วแตะต้องใจ  อีกทั้งยังสอดคล้องกับฉบับKing Jamesด้วย   Ps 68:19 Blessed H1288 be the Lord H136, who daily H3117 H3117 loadeth H6006 us with benefits, even the God H410 of our salvation H3444. Selah H5542.

ว๊าว.. The Lord who daily loadeth...... พระเจ้าผู้ทรงแบกรับภาระหนักของเราทุกวัน

พระเจ้ารู้ทุกสิ่งที่เราแบกรับ พระองค์มาช่วยแบกรับภาระของเราด้วย   พระวจนะข้อนี้มา ลืมเรื่องไปหาหมอเลย  พอไปหาได้เจาะเลือดตรวจเลือด ได้พบว่า ไม่ได้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่ว่าเป็นตับอักเสบ  ดังนั้นคำแนะนำอ.หมอจินตนา ก็ถูกต้องมากเลยครับ ที่ให้ขอหมอตรวจให้ลึกขึ้นอีกนิด   คราวนี้ต้องไปหมอเฉพาะทางต่อไป  ฝากไว้ในคำอธิษฐานของท่านด้วยครับ  ผมก็นึกว่าอายุประมาณนี้อวัยวะภายในก็คงเสื่อมไปบ้าง แต่หมอบอกว่าอายุยังไม่มากไม่น่าเสื่อม  แสดงว่ายังมีเวลาทำงานของอวัยวะได้ใช่ไหม  เลยขอคนที่อธิษฐานเผื่อผมช่วยอธิษฐานฟื้นฟูสมรรถนะทุกชนิดในร่างกายทั้งที่รู้และไม่รู้ว่าผิดปกติ  อยากอยู่รับใช้พระเจ้านานๆนะครับ ผมคาดหวังไว้ว่าสัก 95 ปี 555+ ไม่รู้จะมีแรงทำอะไรหรือเปล่าตอนนั้น  อยากเห็นโลกของเราว่าจะเป็นอย่างไร เราจะหาหนทางแก้ไขได้หรือไม่  อยากเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในช่วงพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมา และที่แน่ๆคืออยากเห็นพระเยซูกลับมาด้วยตา....

6 มีนาคม
บันทึกต่อวันอาทิตย์ที่ 6 มี.ค. -  อาการไม่อยากรับประทานอาหารเป็นอาการอย่างหนึ่งของตับอักเสบ เพิ่งรู้ ก็ไม่อยากทานมาตั้งแต่วันเสาร์จนมาถึงวันอังคาร ก็ยังไม่อยาก นึกว่าก็ดีเหมือนกันนะจะได้ผอมลงหน่อย แต่ว่าจริงๆแล้วไม่ดีครับ อาการนี้ ถ้าทานอาหารไม่ได้ ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรับน้ำเกลือครับ ส่วนผมนี่ก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ ไม่อยากก็ไม่อยาก ไม่รู้สึกอะไร พอมาถึงตอนเที่ยงวันอังคาร ทนไม่ไหวแล้วครับ หิวออกอาการเลย ต้องออกไปหาอะไรทาน ทราบภายหลังว่าผู้นำในห้องประชุมอธิษฐานเผื่อผม นี่เอง อาการอยากอาหารเลยกลับมา ก็รับประทานได้ตั้งแต่ตอนนั้นมาเรื่อย

วันพุธ ไปหาหมอแล้ว ไปเดินออกกำลังกายตอนเย็น ทำไมเหนื่อย  วันพฤหัสวันรุ่งขึ้นไปประชุมกับทีมงาน อธิษฐานเปิดประชุม ทำไมเหนื่อย มารู้เอาภายหลังว่านี่เป็นอีกอาการของตับอักเสบคือเหนื่อย  วันนี้อ.หนู มาหาเพื่ออธิษฐานเผื่อ และบอกให้พัก เพราะเคยเป็น ตับอักเสบต้องพักรักษาตัวมากๆ ผมรับคำไว้ในความปรารถนาดีของอ.หนู และให้อ.จำเนียร เทศนาแทนในวันอาทิตย์ แต่ตั้งแต่ที่อ.หนูอธิษฐานเผื่อให้ ยังไม่ปรากฎอาการเหนื่อยอีกเลย ไปออกกำลังกายตอนเย็น วิ่งด้วยก็ไม่เหนื่อย  แล้วเพิ่งมารู้ในภายหลังจากหมอจินว่า เขาไม่ให้ออกกำลังกายหนัก 555+  ก็ไม่รู้นี่ครับ

วันนี้มานั่งบันทึกไว้หน่อยว่า ไม่เหมือนคนป่วยเลยครับ ได้ขอให้สมาชิกช่วยอธิษฐานเผื่อด้วยอะไรก็ตามที่ผิดปกติในตัวเรา ขอพระเจ้าเอาออกไปให้หมด ต้องการอยู่รับใช้พระเจ้านานๆครับ

22 มีนาคม
วันนี้วันที่ 22 มีนาคม 2011 ไปหาหมอเฉพาะทางตามที่หมอคนเดิมนัดให้ เมื่อไปถึงก็ให้หมอดูผลตรวจเลือดครั้งก่อน สิ่งที่หมอสงสัยด้วยคือว่าทำไมมีโปรตีนในปัสสาวะ ผลเจาะเลือดครั้งก่อนๆก็มีโปรตีนในปัสสาวะ ภาษาหมอก็คือโปรตีนรั่วในปัสสาวะ อายุก็ยังไม่มาก (พูดเหมือนหมอคนก่อนเลย)  แล้วก็คุยกันว่าอาจจะเป็นเพราะยาที่กินเป็นประจำทำให้มีผลต่อตับ วางแผนจะลดยาละลายไขมันลงครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามหมอส่งให้ไปตรวจเลือดอีกรอบ โดยบอกว่าจะดูสองตัวเทียบกัน  เจาะเลือดตรวจปัสสาวะครั้งก่อนมีผลตัวเดียว  ผมก็ไปเจาะเลือดตามคำสั่ง เจาะเสร็จก็ไปหาซื้อสมุดมาเล่ม เพื่อบันทึกว่าจะถามอะไรหมอ จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร จะออกแรงได้ไหม  อาหารจะทานได้แต่ต้มกับนึ่งเท่านั้นใช่หรือไม่  ออกกำลังกายล่ะ เคยออกเป็นประจำ และยาที่คิดจะลด  ฯลฯ

เมื่อผลตรวจเลือดออกมา หมอก็เอาใบรายงานผลเลือดมาดู แล้วก็บอกว่า ปกติ ตับไม่เป็นอะไร ที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้ก็ไม่ต้องทำแล้ว ยาละลายไขมันก็กินได้ปกติ ฯลฯ ปฏิบัติตัวได้ปกติ เพราะว่า ตับปกติ  ฮาเลลูยา  สรรเสริญพระเจ้า  ความรู้สึกว่าไม่เป็นอะไรก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องจริง ได้ผลตรวจมายืนยัน และสิ่งที่ขอพี่น้องสมาชิกอธิษฐานคือเรื่องขอพระเ้จ้าเอาสิ่งผิดปกติในร่างกายที่ไม่รู้ออกไปด้วย  เช่นที่เห็นตอนนี้ก็คือเรื่องโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ผลเลือดก็บอกว่าเป็นปกติ ไม่เพียงแค่เรื่องตับอักเสบเท่านั้น  พระเยซูทรงยิ่งใหญ่ ทรงให้ชีวิตข้าพเจ้ามีไปอีกยาวนานเพื่อจะปรนนิบัติรับใช้พระองค์ อาเมน...

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พันธกิจปลอบประโลม : ขอพระเยซูช่วยปลดปล่อยคนจากพันธนาการของผีมาร

จากครั้งแรกที่ได้เทศน์ไปเมื่อวันคริสต์มาสเรื่อง พระเยซูทรงมาเพื่อใคร จากลูกา 4:18  เป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะให้พระเจ้าใช้ในปีนี้เป็นต้นไป เพื่อขอพระเยซูช่วยคนที่บกพร่องฝ่ายวิญญาณ ชอกช้ำระกำใจ และปลดปล่อยบรรดาเชลย ผู้ที่ถูกคุมขัง

มาช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและสัปดาห์นี้ เหตุการณ์ที่พี่น้องถูกผีมารรบกวนและควบคุมชีวิตในบางช่วงบางขณะก็นำมาซึ่งความงุนงงสงสัยอย่างมากว่าเป็นไปได้ไง ที่คริสเตียนจะถูกผีมารมาสิงได้ อธิษฐานเผื่อไปวันนี้ คืนเดียวกันนั้นผีมารก็เข้ามาควบคุมร่างกาย แถมด้วยอาการแรงขึ้นแรงขึ้น ผีตัวนี้เข้ามาสิงในชีวิตเขาตั้งแต่ก่อนเขาเชื่อแล้ว  พอมาเชื่อก็หายไปพักหนึ่ง แล้วก็กลับมาสิง พร้อมกับคำขู่ต่างๆนาๆว่าจะเอาชีวิตเขาไป คืนวันอังคารที่ผ่านมาก็ได้อธิิษฐานเผื่อเขาผ่านทางโทรศัพท์อยู่ยาวนาน จนอาการเขาดีขึ้น ไม่ถูกสิงอีกในคืนนั้น แต่ตัวผมนี้เหนื่อยไปทั้งวันตลอดวันพุธเลยครับ การสู้รบกับผีมารในพระนามพระเยซูนี้ ต้องการคำอธิษฐานสนับสนุน ต้องการกองระวังหลัง ต้องการกองทัพพระเยซูคริสต์ที่พร้อมจะร่วมต่อสู้กับอำนาจผีมารในพระนามพระเยซูด้วยกันครับ

พอมาคืนวันพุธ มาอีกแล้ว มาเข้าอีกแล้ว ผมงุนงงมาก ถ้าตัวเขาชำระชีวิตสะอาดหมดจดแล้ว ผีมารจะมาเข้าเขาได้ไง พอเช้าวันพฤหัสคือวันนี้ จึงออกไปแต่เช้าไปเยี่ยมที่เขาพักอาศัยพร้อมกับภรรยาคืออ.จำเนียร เพื่อจะไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องราวของเขา และเพื่อจะได้นำเขากล่าวตัดสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆที่เคยไปเกี่ยวข้องมา เมื่อคุยกันก็เพิ่งได้ยินเขาเล่าถึงเรื่องที่อดีตเขาโกรธน้าเขาที่ทำให้แม่ของเขาต้องเสียชีวิต  ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เพราะถ้าเขาไม่มีใจยกโทษเหมือนพระเยซูยกโทษเราแล้ว สิ่งนี้จะเป็นพันธนาการในชีวิตเรา และเป็นรูโหว่ให้ผีมารซาตานอาศัยช่องนี้เข้ามาจู่โจมเราหรือสิงสู่เราได้  เหมือนเรื่องที่ผมเคยเล่าให้พวกเราฟังว่า คนตาบอดมางานประกาศ พระเยซูรักษาเขาหาย และเมื่อเดินกลับไปบ้าน พอเปิดประตูบ้าน ตากลับบอดอีก เป็นอย่างนี้สองคืน พอคืนที่สามอาจารย์ที่เทศน์ลงมาคุยด้วย ถึงรู้ว่า เมื่อเขาเปิดประตูบ้านเข้าไป เขาเห็นสถานที่ที่เขาถูกตีหัวทำให้เขาตาบอด เขาแค้น และอาฆาตว่าถ้าวันใดตาหายบอด จะมาแก้แค้นคืน ความอาฆาตพยาบาทที่สิงใจเขา เป็นช่องให้ความผิดบาปทำงานในตัวได้ ตาเขาจึงบอดซ้ำอีกครั้ง อาจารย์ที่เทศนาจึงบอกให้เขาสารภาพบาปแห่งการไม่ยกโทษนี้ และให้อภัย  ครั้งนี้ตาของเขาจึงไม่กลับมาบอดอีก

เรื่องนี้ก็เช่นกัน ผมเชื่อว่าสิ่งเก่าก่อนในอดีต ถ้าเราไม่ทำลายมัน ตัดสัมพันธ์กับมัน หรือยกโทษให้อภัยแล้ว สิ่งนั้นมันก็จะวนเวียนเป็นรูโหว่ที่ผีมารเอามาใช้โจมตีเราได้  ยังมีเรื่องอื่นๆอีกครับ ก็ค่อยๆนำเขาไปทีละเรื่องๆ เสร็จแล้วเขาก็บอกว่าเบาสบายเลย ขอบคุณพระเจ้่า

หลังจากเสร็จสิ้นการตัดสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆแล้ว เขาเล่าให้ฟังว่า ผีตัวนี้มันมานั่งรอผมกับภรรยาี่ที่ขื่อคาของบ้านนี้ หน้อยแน่... มานั่งรอ ข้ามาในพระนามพระเจ้าจอมโยธานามพระเยซูเฟ้ย  มากไปหน่อยแล้ว มัดเจ้าไว้ที่โคนไม้กางเขนในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้่า อาเมน  ผมบอกว่าอธิษฐานแบบนี้ตั้งแต่ก่อนจะพูดเรื่องนี้แล้ว

สรรเสริญพระเจ้า ได้ไปกับพระเยซูคริสต์ ได้ดูสิ่งที่พระองค์ทรงช่วยปลดปล่อยคนให้พ้นจากอำนาจมารอีกครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าอธิษฐานด้วยว่าขอการฟื้นฟูลงมาในละแวกบ้านแถบนี้ด้วย เหมือนคราวก่อน อาเมน..

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เล่าเก็บตกรายละเอียด : เรื่องที่เขียนในบล็อก

    เขียนไปเขียนมาแล้วย้อนกลับไปดูเรื่องที่เคยเขียนไว้ ก็คิดว่ามาเล่าเพิ่มเพื่อเก็บตกรายละเอียดดีกว่าครับ

เรื่องที่หนึ่ง  เรื่องที่ผมเล่าไปแล้วตอนไปเทศน์ที่โบสถ์มหาชล ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้เล่า ที่สร้างความแปลกประหลาดใจและความยำเกรงพระเจ้าให้กับผมอย่างมากครับ คือเรื่องที่พระเจ้าได้เอารูปต่างๆในอดีตของสมาชิกมหาชล รวมทั้งรูปอื่นๆต่างๆที่พระเจ้าเอามาใส่ไว้ด้วยในมือถือของเขาที่มีกล้องด้วยนั้น ภรรยาผมก็บอกว่า พระเจ้าต้องการให้อธิษฐานเผื่อ  รูปภาพชีวิตเขาในอดีตหนหลังก็เป็นเครื่องเตือนใจในสิ่งต่างๆในสมัยที่ยังไม่ได้เชื่อพระเจ้าที่ได้ทำไป  ภาพที่พระเจ้านำมาใส่ไว้ในมือถือของเขานั้นก็มีมากมายเลยครับ มีรูปพระเยซูแบบที่เราเห็นในหนังสือต่างๆคุกเข่าอธิษฐานด้วย และฉากหลังมีแผนที่ประเืทศไทย แสดงให้เห็นว่าพระองค์อธิษฐานเผื่อประเทศไทยอยู่ด้วย ขอบคุณพระเจ้า

    ส่วนผมก็สงสัยอย่างมากว่ารูปภาพพวกนี้เป็นไฟล์อะไร ได้ดูแล้วก็เห็นว่าเป็นไฟล์jpg ว๊าว.. สรรเสริญพระเจ้า  พระเจ้าแห่งเทคโนโลยี  นำเอาภาพในอดีตตั้งแต่ยังไม่มีเทคโนโลยีถ่ายภาพแบบนี้เมื่อ 30-40 ปีก่อน มาใส่ไว้ในกล้องมือถือ  พระเจ้าทำได้ทุกสิ่งจริงๆครับ ดังนั้นเปิดใจให้กว้าง  และตรวจสอบด้วยพระวจนะ  สำหรับเรื่องนี้ก็นึกถึง ลูกา 12:2-3 ครับ
   1 ในระหว่างนั้นคนเป็นอันมากนับไม่ถ้วนชุมนุมเบียดเสียดกันอยู่ พระองค์ทรงตั้งต้นตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ก่อนว่า "ท่านทั้งหลายจงระวังเชื้อของพวกฟาริสี ซึ่งเป็นความหน้าซื่อใจคด 2 เพราะว่าไม่มีสิ่งใดปิดบังไว้ที่จะไม่ต้องเปิดเผย หรือการลับที่จะไม่เผยให้ประจักษ์ 3 เหตุฉะนั้น สิ่งสารพัดซึ่งพวกท่านได้กล่าวในที่มืดจะได้ยินในที่สว่าง และซึ่งได้กระซิบในหูที่ห้องส่วนตัวจะต้องประกาศบนดาดฟ้าหลังคาบ้าน


เรื่องที่สอง  เรื่องจากเรื่องคุณอุ๋ย ด้วยความที่ผมกระหายจะนำเรื่องนี้มาเล่าแ่บ่งปันให้สมาชิกฟัง จึงไปเยี่ยมคุณอุ๋ยที่โรงพยาบาลในห้องพักรวมพร้อมกับนำวีดีโอไปบันทึกสิ่งที่คุณอุ๋ยเล่าให้ฟังด้วย สัมภาษณ์ไปพร้อมกับถ่ายบันทึกภาพไปด้วย  สักพักก็มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมาเตือนบอกว่าห้ามบันทึก และให้ลบสิ่งบันทึกไปแล้วออกด้วย  ฝ่ายภรรยาคุณอุ๋ยก็บอกว่าให้รีบๆออกไปจากห้อง ด้วยเกรงว่าเขาจะมายึดเอากล้องไป  ในตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรครับ  ได้เอากล้องไปถ่ายที่อื่นต่อ  แต่ปรากฏว่ากล้องผมหายในคืนนั้นเอง  ผมอธิษฐานขอกล้องคืน ฯลฯ เงียบ พระเจ้าไม่ได้ตอบอะไร  บางทีพระเจ้าอาจจะตอบแล้วก็ได้แต่ผมไม่รู้ จนกระทั่งวันที่ผมเทศนาที่คริสตจักร และผมยกพระคัมภีร์จาก โรม 13:1  1 ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจ เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่มิได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ทรงอำนาจนั้นพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น 


นี่เอง ทำให้ผมเกิดความเข้าใจ พระเจ้าสอนผมจากเรื่องนี้ พระองค์ไม่ปรารถนาให้ผมทำผิดด้วยสิ่งใด  เมื่อตอนผมนำกล้องไปถ่ายวีดีโอ ก็คงถ่ายไปโดนคนอื่นๆในห้องนั้นไปด้วย และเจ้าหน้าที่ได้มาห้ามแล้ว  แต่ผมไม่ได้ฟังให้ดี พระเจ้าจึงอนุญาตให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เอากล้องผมไป เพื่อผมจะไม่ทำผิดต่อคนอื่นๆ  เพราะพระคัมภีร์ข้อนี้บอกให้ยอมอยู่ใต้บังคับของผู้มีอำนาจ เพราะไม่มีอำนาจใดที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า  เมื่อเขาเตือนผมให้หยุดและลบสิ่งที่บันทึกไว้นั้น ที่ถูกผมควรจะหยุดบันทึกและลบสิ่งที่ผมบันทึกไปแล้ว  นั่นแสดงว่า ผมเชื่อฟังผู้ที่มีอำนาจ  แต่ผมไม่ได้ทำ   นี่จึงเป็นสิ่งที่พระเจ้าสอนผมในเรื่องนี้ครับ   ก็นำมาแบ่งปันให้ท่านทั้งหลายได้ฟัง ว่าอย่าได้ละเลยคำตักเตือนของผู้ที่มีอำนาจ(หรือสิทธิอำนาจ : คำเดียวกัน) ในสายการปกครองต่างๆ เพราะถ้าเราละเลยคำตักเตือนในสิ่งที่ถูกต้องนั้น ก็เท่ากับเราละเลยการตักเตือนจากพระเยซูคริสต์จริงๆ

การอัศจรรย์ที่พระเยซูกระทำ : สมุทรปราการ

     วันนี้กลับมาดูเรื่องราวต่างๆที่ได้บันทึกไว้ พบว่ายังไม่ได้บันทึกอีกเรื่องคือเรื่องการอัศจรรย์ที่พระเจ้าทำในชีวิตคุณอุ๋ย

     เรื่องนี้เริ่มขึ้นหลังจากข้าพเจ้าเทศนาคริสต์มาสจบในวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค.  หลังจากนั้นภรรยาข้าพเจ้าก็ได้ข่าวมาว่าคุณอุ๋ยสมาชิกเป็นขึ้นมาจากตาย คือว่าสมาชิกคนหนึ่งขณะรับฟังคำเทศนาได้รับโทรศัพท์มาบอกว่าคุณอุ๋ยไม่รู้สึกตัวแล้ว  และขณะนั้นเขาได้ยินผมเทศน์นำตอบสนองอธิษฐานขอจากพระเยซู เขาจึงกลับไปที่บ้านแถวนั้นร่วมใจกันทั้งสามีภรรยาร้องขอชีวิตคุณอุ๋ย  สักพักก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่าคุณอุ๋ยฟื้นแล้ว  สร้างความดีใจและก็มาเล่าให้พวกเราที่กำลังประชุมกันอยู่ฟัง

     เรื่องยาวครับเรื่องนี้ ผมขอเล่าโดยสรุปแล้วกัน คือว่าคุณอุ๋ยนี้ได้เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและนำไปสู่ระบบในร่างกายล้มเหลว ช่วงที่ญาติพี่น้องคุณอุ๋ยโทรศัพท์มาหาสมาชิกเราที่คจ.นั้น คือช่วงที่โลหิตคุณอุ๋ยได้ไหลออกมาจากร่างกายจากทวารทั้งห้า คือ ปาก จมูก ตา หู และทวารหนัก เลือดกองเต็มเตียง ภาษาชาวบ้านคือไฟธาตุแตก  ผมถามหมอที่เป็นสมาชิกที่โบสถ์ ท่านบอกว่าคืออาการของระบบอวัยวะภายในล้มเหลว อวัยวะภายในไม่ทำงาน หมอที่โรงพยาบาลที่ดูแลคุณอุ๋ยบอกว่าไตวาย ไม่สามารถฟอกเลือดได้ เลือดที่ไหลออกมาจึงเป็นสีดำ หมอที่โบสถ์บอกว่าเป็นอาการก่อนจะหมดลมหายใจ  ไม่มีทางที่จะสามารถช่วยชีวิตเขาได้  แล้วทำไมเขากลับมามีชีวิตได้อีก  นี่เป็นสิ่งที่ยืนยันการทรงพระชนม์อยู่ของพระเยซู  วันที่ผมไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ผมถามว่าช่วงนั้นเป็นอย่างไรบ้างให้เล่าอาการความรู้สึก  เขาเล่าว่าเขารู้สึกว่าเขาพูดอะไรก็ไม่รู้  ความคิดในสมองผมวิ่งไปที่เหตุการณ์ในวันที่ผมป่วยทันที  เหมือนกันเลยแฮะ... พูดภาษาแปลกๆ  ในขณะที่เราทำอะไรไม่ได้ ไม่อยู่ในสภาพที่จะทำอะไร พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยขอแทนเรา  ผมก็บอกคุณอุ๋ยว่า คุึณอุ๋ยพูดภาษาแปลกๆ

     จากระบบอวัยวะภายในร่างกายที่เป็นไตวาย อวัยวะภายในเสียหมดแล้ว ตอนนี้ไตกลับเป็นปกติ งงไหมครับ ผมเชื่อว่าหมอที่โรงพยาบาลต้องงงแน่นอน  การตรวจสภาพร่างกายทีแรกเห็นว่าสภาพคุณอุ๋ยเป็นอย่างไร และก็ไม่สามารถทำอะไรกับชีวิตคุณอุ๋ยได้แล้ว ให้เรียกญาติพี่น้องมาดูใจ  แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นอวัยวะต่างๆทำงานเป็นปกติ  แล้วคนที่อยู่ในสภาพเลือดไหลออกมาท่วมเตียงวันนั้น หายไปไหนแล้ว  ผมเชื่อว่านี่่ต้องสร้างความงุนงงให้กับหมอและพยาบาลอย่างแน่นอน  เหมือนผมตอนป่วย ภรรยาผมถามหมอที่่ดูแลผมว่า คุณหมอ อะไรเป็นเหตุผลที่อวัยวะซีกขวาของผมกลับมามีความรู้สึกขึ้นมาใหม่  หมอเงียบ หมอตอบไม่ได้  ไม่มีคำตอบ สำหรับสิ่งที่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ

    สรรเสริญพระเจ้า แต่สำหรับเรา เรารู้ว่าอะไรคือเหตุผลแห่งการรักษาให้หายของผม ของคุณอุ๋ย ของคุณยายที่ผมเล่าให้ฟังครั้งก่อน และของคนอื่นๆที่เชื่อและไว้วางใจในองค์พระเยซูคริสต์

    นี่แหละที่พระเยซูบอกให้ผมดูสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำในคริสตจักร นับตั้งแต่งานกาล่าการกุศลเรื่อยมา สรรเสริญพระเจ้า  ขอพระเกียรติทั้งสิ้นจงมีแด่พระนามพระเยซู พระเจ้าจอมโยธา ตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน...