คำเผยพระวจนะนี้ก็ผ่านมาประมาณปีหนึ่งได้แล้ว พอมีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นในโลกและในประเทศไทยเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ความแปรปรวน แผ่นดินไหว ก็นึกถึงเรื่องนี้ และเอากลับมาดูอีก และก็คิดว่าจะเป็นอย่างไรหนอ ผมไม่ดูหมิ่นคำเผยพระวจนะครับ แต่เก็บไว้ในใจ และดูผลจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นว่าเป็นไปตามคำเผยพระวจนะหรือไม่ เพราะ 1Cor 14:29 ฝ่ายพวกผู้เผยพระวจนะนั้นให้พูดสองคนหรือสามคน และให้คนอื่นวินิจฉัยข้อความที่เขาพูดนั้น
ในที่นี้ให้มีการวินิจฉัยด้วย และอีกข้อ 1Thess 5:20 อย่าประมาทคำเผยข้อลับลึก
1Thess 5:21 จงพิสูจน์ทุกสิ่ง สิ่งที่ดีนั้นจงยึดถือไว้ให้มั่น
ข้อนี้บอกว่าอย่าประมาทคำเผย ดังนั้นเราดูถูกดูหมิ่นไม่ได้ แต่เราก็ไม่ใช่เชื่อทุกสิ่งที่มีคนมาเผยพระวจนะหมดทันที เพราะในโครินธ์บอกให้เราต้องวินิจฉัยข้อความที่เขานั้นเผยด้วย เพราะถ้าผู้เผยพระวจนะไม่เติบโตกับพระเจ้า ก็จะมีสิ่งที่เป็นความคิดตนเองเจือเข้าไปด้วย
ผมถือว่าลักษณะชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญมาก 1 โครินทร์ 13 เป็นเรื่องลักษณะชีวิตคือความรัก แม้เรามีของประทานมากมาย มีความสามารถมากมาย มีความรู้ มีความเชื่อ แต่ก็ใช้ได้เพียงในโลกนี้เท่านั้น ความเชื่อ ความหวังใจก็เช่นกัน ใช้เมื่อเราอยู่ในโลกนี้ แต่ความรักเป็นเรื่องลักษณะชีวิต ใหญ่สุด ไปสวรรค์ความรักก็ยังไปกับเราด้วย แต่ของประทาน ความสามารถ ความรู้ ความเชื่อ ความหวังใจ ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว เพราะพบพระเจ้า อยู่กับพระเจ้าหน้าต่อหน้าแล้ว
ดังนั้น พี่น้องคริสเตียนทั้งหลายจึงควรมีประสบการณ์ความรักของพระเจ้าอยู่ในตัวเรา อาิทิตย์นี้ผมจะเทศน์เรื่องนี้ครับ