วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พันธกิจปลอบประโลม : ขอพระเยซูช่วยปลดปล่อยคนจากพันธนาการของผีมาร

จากครั้งแรกที่ได้เทศน์ไปเมื่อวันคริสต์มาสเรื่อง พระเยซูทรงมาเพื่อใคร จากลูกา 4:18  เป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะให้พระเจ้าใช้ในปีนี้เป็นต้นไป เพื่อขอพระเยซูช่วยคนที่บกพร่องฝ่ายวิญญาณ ชอกช้ำระกำใจ และปลดปล่อยบรรดาเชลย ผู้ที่ถูกคุมขัง

มาช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและสัปดาห์นี้ เหตุการณ์ที่พี่น้องถูกผีมารรบกวนและควบคุมชีวิตในบางช่วงบางขณะก็นำมาซึ่งความงุนงงสงสัยอย่างมากว่าเป็นไปได้ไง ที่คริสเตียนจะถูกผีมารมาสิงได้ อธิษฐานเผื่อไปวันนี้ คืนเดียวกันนั้นผีมารก็เข้ามาควบคุมร่างกาย แถมด้วยอาการแรงขึ้นแรงขึ้น ผีตัวนี้เข้ามาสิงในชีวิตเขาตั้งแต่ก่อนเขาเชื่อแล้ว  พอมาเชื่อก็หายไปพักหนึ่ง แล้วก็กลับมาสิง พร้อมกับคำขู่ต่างๆนาๆว่าจะเอาชีวิตเขาไป คืนวันอังคารที่ผ่านมาก็ได้อธิิษฐานเผื่อเขาผ่านทางโทรศัพท์อยู่ยาวนาน จนอาการเขาดีขึ้น ไม่ถูกสิงอีกในคืนนั้น แต่ตัวผมนี้เหนื่อยไปทั้งวันตลอดวันพุธเลยครับ การสู้รบกับผีมารในพระนามพระเยซูนี้ ต้องการคำอธิษฐานสนับสนุน ต้องการกองระวังหลัง ต้องการกองทัพพระเยซูคริสต์ที่พร้อมจะร่วมต่อสู้กับอำนาจผีมารในพระนามพระเยซูด้วยกันครับ

พอมาคืนวันพุธ มาอีกแล้ว มาเข้าอีกแล้ว ผมงุนงงมาก ถ้าตัวเขาชำระชีวิตสะอาดหมดจดแล้ว ผีมารจะมาเข้าเขาได้ไง พอเช้าวันพฤหัสคือวันนี้ จึงออกไปแต่เช้าไปเยี่ยมที่เขาพักอาศัยพร้อมกับภรรยาคืออ.จำเนียร เพื่อจะไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องราวของเขา และเพื่อจะได้นำเขากล่าวตัดสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆที่เคยไปเกี่ยวข้องมา เมื่อคุยกันก็เพิ่งได้ยินเขาเล่าถึงเรื่องที่อดีตเขาโกรธน้าเขาที่ทำให้แม่ของเขาต้องเสียชีวิต  ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เพราะถ้าเขาไม่มีใจยกโทษเหมือนพระเยซูยกโทษเราแล้ว สิ่งนี้จะเป็นพันธนาการในชีวิตเรา และเป็นรูโหว่ให้ผีมารซาตานอาศัยช่องนี้เข้ามาจู่โจมเราหรือสิงสู่เราได้  เหมือนเรื่องที่ผมเคยเล่าให้พวกเราฟังว่า คนตาบอดมางานประกาศ พระเยซูรักษาเขาหาย และเมื่อเดินกลับไปบ้าน พอเปิดประตูบ้าน ตากลับบอดอีก เป็นอย่างนี้สองคืน พอคืนที่สามอาจารย์ที่เทศน์ลงมาคุยด้วย ถึงรู้ว่า เมื่อเขาเปิดประตูบ้านเข้าไป เขาเห็นสถานที่ที่เขาถูกตีหัวทำให้เขาตาบอด เขาแค้น และอาฆาตว่าถ้าวันใดตาหายบอด จะมาแก้แค้นคืน ความอาฆาตพยาบาทที่สิงใจเขา เป็นช่องให้ความผิดบาปทำงานในตัวได้ ตาเขาจึงบอดซ้ำอีกครั้ง อาจารย์ที่เทศนาจึงบอกให้เขาสารภาพบาปแห่งการไม่ยกโทษนี้ และให้อภัย  ครั้งนี้ตาของเขาจึงไม่กลับมาบอดอีก

เรื่องนี้ก็เช่นกัน ผมเชื่อว่าสิ่งเก่าก่อนในอดีต ถ้าเราไม่ทำลายมัน ตัดสัมพันธ์กับมัน หรือยกโทษให้อภัยแล้ว สิ่งนั้นมันก็จะวนเวียนเป็นรูโหว่ที่ผีมารเอามาใช้โจมตีเราได้  ยังมีเรื่องอื่นๆอีกครับ ก็ค่อยๆนำเขาไปทีละเรื่องๆ เสร็จแล้วเขาก็บอกว่าเบาสบายเลย ขอบคุณพระเจ้่า

หลังจากเสร็จสิ้นการตัดสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆแล้ว เขาเล่าให้ฟังว่า ผีตัวนี้มันมานั่งรอผมกับภรรยาี่ที่ขื่อคาของบ้านนี้ หน้อยแน่... มานั่งรอ ข้ามาในพระนามพระเจ้าจอมโยธานามพระเยซูเฟ้ย  มากไปหน่อยแล้ว มัดเจ้าไว้ที่โคนไม้กางเขนในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้่า อาเมน  ผมบอกว่าอธิษฐานแบบนี้ตั้งแต่ก่อนจะพูดเรื่องนี้แล้ว

สรรเสริญพระเจ้า ได้ไปกับพระเยซูคริสต์ ได้ดูสิ่งที่พระองค์ทรงช่วยปลดปล่อยคนให้พ้นจากอำนาจมารอีกครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าอธิษฐานด้วยว่าขอการฟื้นฟูลงมาในละแวกบ้านแถบนี้ด้วย เหมือนคราวก่อน อาเมน..

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เล่าเก็บตกรายละเอียด : เรื่องที่เขียนในบล็อก

    เขียนไปเขียนมาแล้วย้อนกลับไปดูเรื่องที่เคยเขียนไว้ ก็คิดว่ามาเล่าเพิ่มเพื่อเก็บตกรายละเอียดดีกว่าครับ

เรื่องที่หนึ่ง  เรื่องที่ผมเล่าไปแล้วตอนไปเทศน์ที่โบสถ์มหาชล ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้เล่า ที่สร้างความแปลกประหลาดใจและความยำเกรงพระเจ้าให้กับผมอย่างมากครับ คือเรื่องที่พระเจ้าได้เอารูปต่างๆในอดีตของสมาชิกมหาชล รวมทั้งรูปอื่นๆต่างๆที่พระเจ้าเอามาใส่ไว้ด้วยในมือถือของเขาที่มีกล้องด้วยนั้น ภรรยาผมก็บอกว่า พระเจ้าต้องการให้อธิษฐานเผื่อ  รูปภาพชีวิตเขาในอดีตหนหลังก็เป็นเครื่องเตือนใจในสิ่งต่างๆในสมัยที่ยังไม่ได้เชื่อพระเจ้าที่ได้ทำไป  ภาพที่พระเจ้านำมาใส่ไว้ในมือถือของเขานั้นก็มีมากมายเลยครับ มีรูปพระเยซูแบบที่เราเห็นในหนังสือต่างๆคุกเข่าอธิษฐานด้วย และฉากหลังมีแผนที่ประเืทศไทย แสดงให้เห็นว่าพระองค์อธิษฐานเผื่อประเทศไทยอยู่ด้วย ขอบคุณพระเจ้า

    ส่วนผมก็สงสัยอย่างมากว่ารูปภาพพวกนี้เป็นไฟล์อะไร ได้ดูแล้วก็เห็นว่าเป็นไฟล์jpg ว๊าว.. สรรเสริญพระเจ้า  พระเจ้าแห่งเทคโนโลยี  นำเอาภาพในอดีตตั้งแต่ยังไม่มีเทคโนโลยีถ่ายภาพแบบนี้เมื่อ 30-40 ปีก่อน มาใส่ไว้ในกล้องมือถือ  พระเจ้าทำได้ทุกสิ่งจริงๆครับ ดังนั้นเปิดใจให้กว้าง  และตรวจสอบด้วยพระวจนะ  สำหรับเรื่องนี้ก็นึกถึง ลูกา 12:2-3 ครับ
   1 ในระหว่างนั้นคนเป็นอันมากนับไม่ถ้วนชุมนุมเบียดเสียดกันอยู่ พระองค์ทรงตั้งต้นตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ก่อนว่า "ท่านทั้งหลายจงระวังเชื้อของพวกฟาริสี ซึ่งเป็นความหน้าซื่อใจคด 2 เพราะว่าไม่มีสิ่งใดปิดบังไว้ที่จะไม่ต้องเปิดเผย หรือการลับที่จะไม่เผยให้ประจักษ์ 3 เหตุฉะนั้น สิ่งสารพัดซึ่งพวกท่านได้กล่าวในที่มืดจะได้ยินในที่สว่าง และซึ่งได้กระซิบในหูที่ห้องส่วนตัวจะต้องประกาศบนดาดฟ้าหลังคาบ้าน


เรื่องที่สอง  เรื่องจากเรื่องคุณอุ๋ย ด้วยความที่ผมกระหายจะนำเรื่องนี้มาเล่าแ่บ่งปันให้สมาชิกฟัง จึงไปเยี่ยมคุณอุ๋ยที่โรงพยาบาลในห้องพักรวมพร้อมกับนำวีดีโอไปบันทึกสิ่งที่คุณอุ๋ยเล่าให้ฟังด้วย สัมภาษณ์ไปพร้อมกับถ่ายบันทึกภาพไปด้วย  สักพักก็มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมาเตือนบอกว่าห้ามบันทึก และให้ลบสิ่งบันทึกไปแล้วออกด้วย  ฝ่ายภรรยาคุณอุ๋ยก็บอกว่าให้รีบๆออกไปจากห้อง ด้วยเกรงว่าเขาจะมายึดเอากล้องไป  ในตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรครับ  ได้เอากล้องไปถ่ายที่อื่นต่อ  แต่ปรากฏว่ากล้องผมหายในคืนนั้นเอง  ผมอธิษฐานขอกล้องคืน ฯลฯ เงียบ พระเจ้าไม่ได้ตอบอะไร  บางทีพระเจ้าอาจจะตอบแล้วก็ได้แต่ผมไม่รู้ จนกระทั่งวันที่ผมเทศนาที่คริสตจักร และผมยกพระคัมภีร์จาก โรม 13:1  1 ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอำนาจ เพราะว่าไม่มีอำนาจใดเลยที่มิได้มาจากพระเจ้า และผู้ที่ทรงอำนาจนั้นพระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น 


นี่เอง ทำให้ผมเกิดความเข้าใจ พระเจ้าสอนผมจากเรื่องนี้ พระองค์ไม่ปรารถนาให้ผมทำผิดด้วยสิ่งใด  เมื่อตอนผมนำกล้องไปถ่ายวีดีโอ ก็คงถ่ายไปโดนคนอื่นๆในห้องนั้นไปด้วย และเจ้าหน้าที่ได้มาห้ามแล้ว  แต่ผมไม่ได้ฟังให้ดี พระเจ้าจึงอนุญาตให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เอากล้องผมไป เพื่อผมจะไม่ทำผิดต่อคนอื่นๆ  เพราะพระคัมภีร์ข้อนี้บอกให้ยอมอยู่ใต้บังคับของผู้มีอำนาจ เพราะไม่มีอำนาจใดที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า  เมื่อเขาเตือนผมให้หยุดและลบสิ่งที่บันทึกไว้นั้น ที่ถูกผมควรจะหยุดบันทึกและลบสิ่งที่ผมบันทึกไปแล้ว  นั่นแสดงว่า ผมเชื่อฟังผู้ที่มีอำนาจ  แต่ผมไม่ได้ทำ   นี่จึงเป็นสิ่งที่พระเจ้าสอนผมในเรื่องนี้ครับ   ก็นำมาแบ่งปันให้ท่านทั้งหลายได้ฟัง ว่าอย่าได้ละเลยคำตักเตือนของผู้ที่มีอำนาจ(หรือสิทธิอำนาจ : คำเดียวกัน) ในสายการปกครองต่างๆ เพราะถ้าเราละเลยคำตักเตือนในสิ่งที่ถูกต้องนั้น ก็เท่ากับเราละเลยการตักเตือนจากพระเยซูคริสต์จริงๆ

การอัศจรรย์ที่พระเยซูกระทำ : สมุทรปราการ

     วันนี้กลับมาดูเรื่องราวต่างๆที่ได้บันทึกไว้ พบว่ายังไม่ได้บันทึกอีกเรื่องคือเรื่องการอัศจรรย์ที่พระเจ้าทำในชีวิตคุณอุ๋ย

     เรื่องนี้เริ่มขึ้นหลังจากข้าพเจ้าเทศนาคริสต์มาสจบในวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค.  หลังจากนั้นภรรยาข้าพเจ้าก็ได้ข่าวมาว่าคุณอุ๋ยสมาชิกเป็นขึ้นมาจากตาย คือว่าสมาชิกคนหนึ่งขณะรับฟังคำเทศนาได้รับโทรศัพท์มาบอกว่าคุณอุ๋ยไม่รู้สึกตัวแล้ว  และขณะนั้นเขาได้ยินผมเทศน์นำตอบสนองอธิษฐานขอจากพระเยซู เขาจึงกลับไปที่บ้านแถวนั้นร่วมใจกันทั้งสามีภรรยาร้องขอชีวิตคุณอุ๋ย  สักพักก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่าคุณอุ๋ยฟื้นแล้ว  สร้างความดีใจและก็มาเล่าให้พวกเราที่กำลังประชุมกันอยู่ฟัง

     เรื่องยาวครับเรื่องนี้ ผมขอเล่าโดยสรุปแล้วกัน คือว่าคุณอุ๋ยนี้ได้เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและนำไปสู่ระบบในร่างกายล้มเหลว ช่วงที่ญาติพี่น้องคุณอุ๋ยโทรศัพท์มาหาสมาชิกเราที่คจ.นั้น คือช่วงที่โลหิตคุณอุ๋ยได้ไหลออกมาจากร่างกายจากทวารทั้งห้า คือ ปาก จมูก ตา หู และทวารหนัก เลือดกองเต็มเตียง ภาษาชาวบ้านคือไฟธาตุแตก  ผมถามหมอที่เป็นสมาชิกที่โบสถ์ ท่านบอกว่าคืออาการของระบบอวัยวะภายในล้มเหลว อวัยวะภายในไม่ทำงาน หมอที่โรงพยาบาลที่ดูแลคุณอุ๋ยบอกว่าไตวาย ไม่สามารถฟอกเลือดได้ เลือดที่ไหลออกมาจึงเป็นสีดำ หมอที่โบสถ์บอกว่าเป็นอาการก่อนจะหมดลมหายใจ  ไม่มีทางที่จะสามารถช่วยชีวิตเขาได้  แล้วทำไมเขากลับมามีชีวิตได้อีก  นี่เป็นสิ่งที่ยืนยันการทรงพระชนม์อยู่ของพระเยซู  วันที่ผมไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ผมถามว่าช่วงนั้นเป็นอย่างไรบ้างให้เล่าอาการความรู้สึก  เขาเล่าว่าเขารู้สึกว่าเขาพูดอะไรก็ไม่รู้  ความคิดในสมองผมวิ่งไปที่เหตุการณ์ในวันที่ผมป่วยทันที  เหมือนกันเลยแฮะ... พูดภาษาแปลกๆ  ในขณะที่เราทำอะไรไม่ได้ ไม่อยู่ในสภาพที่จะทำอะไร พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยขอแทนเรา  ผมก็บอกคุณอุ๋ยว่า คุึณอุ๋ยพูดภาษาแปลกๆ

     จากระบบอวัยวะภายในร่างกายที่เป็นไตวาย อวัยวะภายในเสียหมดแล้ว ตอนนี้ไตกลับเป็นปกติ งงไหมครับ ผมเชื่อว่าหมอที่โรงพยาบาลต้องงงแน่นอน  การตรวจสภาพร่างกายทีแรกเห็นว่าสภาพคุณอุ๋ยเป็นอย่างไร และก็ไม่สามารถทำอะไรกับชีวิตคุณอุ๋ยได้แล้ว ให้เรียกญาติพี่น้องมาดูใจ  แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นอวัยวะต่างๆทำงานเป็นปกติ  แล้วคนที่อยู่ในสภาพเลือดไหลออกมาท่วมเตียงวันนั้น หายไปไหนแล้ว  ผมเชื่อว่านี่่ต้องสร้างความงุนงงให้กับหมอและพยาบาลอย่างแน่นอน  เหมือนผมตอนป่วย ภรรยาผมถามหมอที่่ดูแลผมว่า คุณหมอ อะไรเป็นเหตุผลที่อวัยวะซีกขวาของผมกลับมามีความรู้สึกขึ้นมาใหม่  หมอเงียบ หมอตอบไม่ได้  ไม่มีคำตอบ สำหรับสิ่งที่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ

    สรรเสริญพระเจ้า แต่สำหรับเรา เรารู้ว่าอะไรคือเหตุผลแห่งการรักษาให้หายของผม ของคุณอุ๋ย ของคุณยายที่ผมเล่าให้ฟังครั้งก่อน และของคนอื่นๆที่เชื่อและไว้วางใจในองค์พระเยซูคริสต์

    นี่แหละที่พระเยซูบอกให้ผมดูสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำในคริสตจักร นับตั้งแต่งานกาล่าการกุศลเรื่อยมา สรรเสริญพระเจ้า  ขอพระเกียรติทั้งสิ้นจงมีแด่พระนามพระเยซู พระเจ้าจอมโยธา ตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน...

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แบ่งปันงานรับใช้ : พระเยซูช่วยคนจากพันธนาการ

    วันนี้สมาชิกมารับไปเยี่ยมเยียนคุณแม่ ตอนไปก็ยังไม่รู้อะไรมากหรอกครับ เข้าใจว่าให้ไปอธิษฐานอวยพรเผื่อโรคภัยไข้เจ็บ สมาชิกมากับพี่ชาย(อายุ 62 ปีแล้ว)ยังไม่ได้เชื่อ ตอนเดินทางไปพระประแดงบ้านของพี่ชายที่คุณยายอยู่ ถึงได้รู้ว่าคุณยายนี่คงโดนคุณไสยแน่นอน เพราะสมัยสาวๆอายุ 16 ปี มีคนมาชอบ แต่พ่อกั้น ผู้ชายเลยทำของมาเข้าคุณยาย ตั้งแต่นั้นมาจนเดี๋ยวนี้อายุ 80 กว่าปีเข้าไปแล้ว สภาพคุณยายก็อยู่ในสภาพที่ด่าว่าคน และอยู่ในสภาพของคนที่มีวิญญาณชั่วอยู่ในร่างกาย ไม่เป็นตัวของตัวเอง  ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ฯลฯนานาสารพัดมากมาย ที่พี่ชายลูกคนหนึ่งของคุณยายได้เล่าให้ฟัง ก็นั่งฟังเรื่องราวที่พี่ชายสมาชิกเล่าให้ฟัง สังเกตว่าเขาเป็นคนที่แสวงหา เลยบอกให้สนทนากับพระเจ้าโดยตรง ท้าทายให้มีประสบการณ์กับพระเจ้า เขาบอกว่าเขาชอบท้าทาย ผมนึกเลยว่ามาถูกทางแล้ว และบอกให้เขาลองฟังคำพยานของภรรยาผมที่ท้าทายพระเจ้าสมัยก่อนดูบ้าง  ความคิดในตอนนั้นของผมก็เพียงแค่คิดว่าจะท้าทายเขาให้แสวงหาพระเจ้าและเจอพระเจ้าโดยตรง ส่วนคุณแม่เขานั้นคงต้องรอให้เขามีประสบการณ์กับพระเจ้า เพื่อจะสามารถช่วยคุณยายได้  ปรากฏว่าคุยกับพี่ชายเพื่อฟังเหตุการณ์ความเป็นไปต่างๆของคุณยายเสร็จแล้ว  เข้าไปหาคุณยาย สังเกตว่าเอ.. คุณยายก็ดูเป็นคนปกตินี่ ไม่เห็นมีอาการเหมือนมีวิญญาณชั่วรบกวนหรือเข้าสิงเลย พูดคุยกับเราได้รู้เรื่อง พอเราจะเล่าเรื่องพระเยซู คุณยายก็บอกว่าคุณยายรู้จักพระเยซู เคยเจอกันแล้วเมื่อ 30 ปีก่อน เจอกันแล้วว่าพระเยซูจะไปที่ฝังศพในอุโมงค์ คุณยายก็ห้าม และคุณยายก็แสดงท่ากางแขนออกเป็นรูปกางเขนที่พระเยซูถูกตรึง ว๊าว.. พระเยซูมาเยี่ยมคุณยาย ผมก็เลยเล่าให้ฟังว่าสิ่งนั้นพระเยซูมาทำเพื่อคนทั้งโลกรวมทั้งคุณยายด้วย   พระเจ้ามาเตรียมชีวิตคุณยายตั้งแต่นานมาแล้ว  คุณยายเล่าว่าได้เห็นสวรรค์ด้วย มียักษ์ 2 ตนเฝ้าประตูอยู่ ตัวใหญ่โต ใส่ชุดสีขาวสวยงาม  ว๊าว.. เราก็บอกว่านั่นเรียกว่าทูตสวรรค์  คุณยายบอกว่าที่นั่นไม่มีท้องฟ้า  ว๊าว...  แบบพระคัมภีร์เลย  วิวรณ์บอกว่า ไม่มีท้องฟ้าแล้ว ท้องฟ้าเดิมและแผ่นดินโลกเดิมหายไปแล้ว วว. 21:1  ผมจำไม่ได้หมดหรอกครับว่าคุณยายพูดอะไรบ้าง เสร็จแล้วเราก็เลยนำคุณยายต้อนรับพระเยซู  ส่วนผมก็เดินเข้าเดินออกคุยกับคนในบ้านเรื่องที่พระเยซูมาหาคุณยายตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อน เมื่อคืนแกก็ฝันด้วยว่าจะมีผู้ชายกับผู้หญิงมาหา ซึ่งนั่นก็คงเป็นผมกับภรรยา คุณยายบอกว่าเคยพบภรรยาผมแล้วในความฝัน  ถึงตอนนี้ผมก็บอกให้คุณยายอธิษฐานตัดสัมพันธ์กับภูตผีปีศาจหรือสิ่งต่างๆที่เคยสัมพันธ์ด้วยหรือเคยถูกทำคุณไสยมาในอดีต  ตอนนี้แหละครับที่อธิษฐานแล้ว สภาพคุณยายเปลี่ยนไปเป็นเสียงผู้ชายพูด ภรรยาผมบอกว่า เห็นผมพูดบอกว่าผีมารไม่ต้องพูด ให้คุณยายพูด ตอนนั้นผมต้องการให้สติคุณยายกลับคืนมาสู่ตัว ไม่ต้องการให้วิญญาณอื่นมาช่วงชิงเอาตัวคุณยายไปมีอำนาจเหนือตัวคุณยาย เราทั้งสรรเสริญ ทั้งร้องเพลง ทั้งอธิษฐานในพระนามพระเยซูเผื่อ ไล่พวกเหล่าผีวิญญาณชั่วไปจากตัวคุณยาย ประกาศชัยชนะในพระนามพระเยซู ส่วนตัวคุณยายก็ล้มกลิ้งไปกลิ้งมา จนสุดท้ายก็ลงไปนอนเงียบอยู่บนเตียง  สรรเสริญพระเจ้า... ไม่คาดเลยว่า พระเจ้าได้ทำงานบนชีวิตคุณยาย ได้เตรียมชีวิตไว้นานแล้ว ขอพระเจ้าประทานการฟื้นฟูนี้ลงมาบนครอบครัวนี้ ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวเก่าแก่ของอำเภอพระประแดง  ขอพระเยซูมีชัยชนะเหนือผีวิญญาณชั่วในอำเภอพระประแดง
     ไปกลับมาแล้ว ก็มานึกว่า นี่หรือเปล่าที่พระเจ้าบอกให้ไปจุดไฟการฟื้นฟูในท่ามกลางคนที่ยังไม่เชื่อ ไปจุดไฟในท่ามกลางใบไม้ที่เหี่ยวแห้ง ในสภาพสังคมที่บอบช้ำต้องการการเยียวยาปลอบประโลม ขอองค์พระวิญญาณ ผู้ทรงปลอบประโลมใจคนลงมาเยี่ยมเยียนในสังคมทั่วไป ผมจะรอดูสิ่งที่พระองค์จะทำมากขึ้น พระองค์นำไปทางไหน ผมจะตามไปทางนั้น ขอพระเกียรติจงมีแด่พระเจ้าพระบิดา พระเยซู พระวิญญาณบริสุทธิ์
    อาทิตย์นี้วันแห่งความรัก ผมอธิษฐานขอพระเจ้าเสด็จมาเยี่ยมเยียนคจ.เรา ขอให้สมาชิกพบพระเจ้าหน้าต่อหน้า ให้มีประสบการณ์ในความรักพระเจ้า เหมือนผมเคยมีสมัยเชื่อพระเจ้าใหม่ๆ ขอพระเจ้าอวยพรครับ